Toyota Thailand ขนรถยนต์พลังงานไฟฟ้าแบบเซลล์เชื้อเพลิง จากไฮโดรเจน Mirai Gen2 เตรียมบุกตลาดเมืองไทย เติมเชื้อเพลิงไฮโดรเจนเพียง 5 นาที เหมือนเติมน้ำมัน ไม่ต้องชาร์จไฟฟ้า วิ่งไกล 800 กิโลเมตร จัดโชว์งาน Motor Expo ปลายเดือนนี้ คาดขายในเมืองไทย ต้นปีหน้า ราคาในญี่ปุ่นเฉียด 2 ล้านบาท
📕📕 เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา 4 ยักษ์ใหญ่พลังงานและยานยนต์ ประกอบด้วย บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือปตท. บริษัท บางกอกอินดัสเทรียลแก๊ส จำกัด (BIG) บริษัท โตโยต้า ไดฮัทสุ เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด (TDEM) และ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด (TMT) ร่วมเปิดสถานีนำร่องทดลองใช้เชื้อเพลิงไฮโดรเจนสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าเซลล์เชื้อเพลิง (Fuel Cell Electric Vehicle: FCEV) แห่งแรกของประเทศไทย (Hydrogen Station) ณ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี
มีการนำรถยนต์ไฟฟ้าเซลล์เชื้อเพลิง รุ่นมิไร (Mirai) ของโตโยต้า มาเพื่อทดสอบการใช้งานในประเทศไทย ให้บริการในรูปแบบรถรับส่งระหว่างสนามบินอู่ตะเภา จ.ชลบุรี (U-Tapao Limousines) สำหรับนักท่องเที่ยวและผู้โดยสารในพื้นที่พัทยา - ชลบุรี และพื้นที่ใกล้เคียง โดยจะทำการเก็บข้อมูลเชิงเทคนิค
สิ่งที่สื่อมวลชนให้ความสนใจมากที่สุด ไม่ใช่ Hydrogen Station แต่เป็นรถยนต์ Toyota Mirai FCV รถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วย เซลล์เชื้อเพลิงจากไฮโดรเจน ถือเป็นยานยนต์ ที่พลังงานเซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจนที่สะอาดมากกว่ารถยนต์ไฟฟ้าเสียอีก โดยปล่อยของเสียออกมาเป็นน้ำสะอาดเท่านั้น เรียกได้ว่ามีการปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ นอกจากนี้ ยังมีข้อดีมากมาย ในการเติมไฮโดรเจนใช้เวลาเท่าๆกับการเติมน้ำมัน ไม่ต้องเสียเวลาจอดชาร์จไฟ เกือบนับชั่วโมง
📕📕 Toyota Mirai (รุ่นมิไร) รุ่นแรก เจเนอเรชั่นที่ 1 มีการเปิดตัวในปี ในปี 2557 (2014) สร้างความฮือฮาให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์ของโลก ในด้านของการพัฒนายานยนต์ พลังงานเซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจน กลายเป็นแนวคิดของยานพาหนะที่ใช้พลังงานสะอาดและมีความยั่งยืน
ทำให้ Toyota MIRAI รุ่นแรก มียอดจำหน่ายสะสมทั่วโลกอยู่ที่ประมาณ 10,000 คัน ส่วนรุ่นที่สองที่ Toyota Motor Thailand นำมาให้สื่อมวลชนทดลองขับ และมีการออกขายในปี 2020 ไปทั่วโลก แต่เนื่องจากมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ยอดขายไม่ดีนัก แต่สำหรับในญี่ปุ่น ก็ยังมีขายได้ถึง 22,000 คัน ระหว่าง ปี 2020 – 2022
สำหรับรถยนต์พลังงานไฮโดรเจนรุ่นใหม่ล่าสุด Toyota Mirai FCV GEN 2 ได้ปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานของเซลล์พลังงานเชื้อเพลิงให้ดีขึ้น เพื่อเพิ่มระยะการขับใช้งานที่ไกลกว่า MIRAI รุ่นแรกมากถึง 30 เปอร์เซ็นต์ รวมไปถึงยังมีอัตราเร่งและสมรรถนะของรถที่ดีขึ้นในทุกจุด Mirai รุ่นใหม่ออกแบบใหม่หมดทั้งหมด ภายใต้สถาปัตยกรรมยานยนต์ล่าสุดของ Toyota ที่เรียกว่า TNGA-L โดยใช้แพลตฟอร์ม ร่วมกับรถหรูอย่าง Lexus LS เพียงแต่ว่า มีการปรับเปลี่ยนหลายจุด เพื่อวางระบบขับเคลื่อนไฮโดรเจน ที่ไม่มีการปล่อยมลพิษออกมาเลย และใช้แชสซีแบบรถยนต์ขับเคลื่อนล้อหลัง
📙📙 นอกจากนี้ มีการปรับปรุงประสิทธิภาพ เซลล์พลังงานเชื้อเพลิง ถังเก็บพลังงานไฮโดรเจนขนาดใหญ่ มีความปลอดภัยสูง และใช้การทดสอบอย่างหนักหน่วง ให้แน่ใจว่าจะไม่มีการรั่วไหลของก๊าซไฮโดรเจนหากเกิดอุบัติเหตุ ถังเชื้อเพลิงความหนาสามชั้น มีกลไกของวาล์วนิรภัย ที่ตัวถังเชื้อเพลิงไฮโดรเจน เพื่อป้องกันการรั่วแม้จะถูกชนอย่างรุนแรง
ระบบการทำงานของเซลล์เชื้อเพลิง ที่ติดตั้งบริเวณพื้นรถ โดยใช้ไฮโดรเจนทำปฏิกิริยาทางเคมีกับออกซิเจน เพื่อสร้างกระแสไฟฟ้าป้อนให้กับมอเตอร์ขับเคลื่อน น้ำที่จะถูกปล่อยออกมาจากท่อระบาย และถูกนำไปหล่อเย็นให้กับเซลล์เชื้อเพลิงแล้วค่อยปล่อยทิ้งออกมานอกรถ เป็นของเสียเพียงอย่างเดียวที่ออกมาจาก Mirai โดยมีปุ่มกดเพื่อปล่อยน้ำทิ้ง หากไม่ต้องการให้น้ำไหลนองพื้นขณะจอด
ทั้งนี้ ไฮโดรเจน จะถูกเก็บในถังแรงดันสูง 700 บาร์ ถังเชื้อเพลิงผลิตจากคาร์บอนไฟเบอร์ที่มีความแข็งแกร่ง และมีน้ำหนักเบา ชั้นในของถังเชื้อเพลิงไฮโดรเจน บุด้วย polyamide resin ช่วยป้องกันการรั่วไหลของไฮโดรเจน ก่อนที่จะส่งไปยังเซลล์เชื้อเพลิงที่ติดตั้งอยู่ด้านหน้า
3 ช่องดักอากาศขนาดใหญ่ของ Mirai เหนี่ยวนำออกซิเจนสู่เซลล์เชื้อเพลิง เมื่อออกซิเจนและไฮโดรเจนผสมกัน จะเกิดปฏิกิริยาทางเคมีทำให้เกิดกระแสไฟฟ้า ความร้อนและน้ำ กระแสไฟฟ้าจะถูกลำเลียงไปป้อนพลังงานให้กับมอเตอร์ไฟฟ้ากำลัง 160 แรงม้า
แบตเตอรี่แบบพิเศษของ Mirai ช่วยเสริมกำลังให้กับมอเตอร์ไฟฟ้าเมื่อผู้ขับกดคันเร่งอย่างรุนแรง ในช่วงความเร็วต่ำ แบตเตอรี่จะป้อนไฟเข้าสู่มอเตอร์ไฟฟ้าเพื่อขับเคลื่อนโดยยังไม่ต้องพึ่งพาไฮโดรเจน เมื่อคนขับเหยียบเบรกหรือยกคันเร่ง ระบบ regenerative จะเริ่มวัฏจักรของการชาร์จกระแสไฟฟ้าเข้าไปเก็บในแบตเตอรี่
📙📙 Toyota Mirai FCV GEN 2 รูปลักษณ์ภายนอกปรับขนาดใหญ่ขึ้นคล้ายกับสปอร์ตซีดาน Lexus ES โดยเปิดตัวตั้งแต่ปี 2020 สร้างจากพื้นฐาน TNGA GA-L หน้าตาหรูหราขึ้นกว่าเจนเดิมตั้งแต่ กระจังหน้าทรงปิดทีบปะโลโก้สามห่วงสีฟ้า ไฟหน้า Bi-beam LED ใต้ไฟหน้ามีไฟ DRL แบบ LED ใต้กระจังหน้ามีช่องระบายอากาศสีดำ และคิ้วโครเมียมสีเงินใต้ขอบกันชนหน้า
ล้ออัลลอยมีให้เลือกตั้งแต่ขนาด 19 นิ้วพร้อมยาง 235/55 R19 และ ขนาด 20 นิ้วพร้อมยาง 245/45R20 กระจกมองข้างทรงสปูนพร้อมไฟเลี้ยว LED คิ้วโครเมียมกรอบกระจกแบบโอเปร่า ไฟท้าย LED แนวยาวขนาดเล็กเรียวพร้อมฝากระโปรงท้าย มีสปอยเลอร์ในตัวเข้ากับชุดกันชนหลังตกแต่งพลาสติกสีเข้ม ตัวรถมีความยาวตั้งแต่ 4,975 มม. ความกว้าง 1,885 มม. ความสูง 1,480 มม. ฐานล้อ 2,920 มม. และน้ำหนักรถ 1,920-1,950 กก.
ภายในหรูเทียบเท่ากับ Lexus LS ด้วยระบบหน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ 12.3 นิ้ว รองรับ Android Auto Apple CarPlay ลำโพง JBL ที่ให้มาถึง 14 ตัวรวมซับวูฟเฟอร์ มาตรวัดดิจิทัล TFT LCD สีขนาด 8 นิ้ว พร้อมมาตรวัดความเร็วและระบบนำทางจอแสดงผลแบบสีบนแผงคอนโซลหน้าHead Up Display ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบสามโซน และหลังคาพาโนรามิกซันรูฟแบบสกายวิลล์
🟢🟢 ขุมพลังของ Toyota Mirai ติดตั้งแบตเตอรี่แบบ nickel metal hydride ขนาด 1.6 kWh โดย Mirai GEN 1 มีกำลังเพียง 154 แรงม้า แรงบิด 335 นิวตันเมตร มีถังไฮโดรเจนสองถัง มื่อเติมเชื้อเพลิงไฮโดรเจนจนเต็มถัง สามารถวิ่งได้ระยะทางไกลประมาณ 502 กิโลเมตร ถือว่าวิ่งได้ไกลกว่ารถไฟฟ้าหลายรุ่นในปัจจุบัน
ส่วน Mirai FCV GEN 2 ขุมพลังไฮโดรเจนพัฒนาใหม่ เป็นมอเตอร์ไฟฟ้า Permanent magnet synchronous motor รุ่น 4JM ให้กำลังมากถึง 182 แรงม้าที่ 6,940 รอบ/นาที แรงบิด 300 นิวตันเมตรที่0-3,267 รอบ/นาที พร้อมแบตเตอรี่แบบ lithium-ion ขนาดเล็กลงเพียง 1.2 kWh จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Single Speed ขับเคลื่อนล้อหลัง ผนวกกับถังไฮโดรเจน 3 ถังใต้ท้องรถ ที่มีความจุถังทั้งหมด 141 ลิตร ความเร็วสูงสุด 175 กม./ชม. ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. เพียง 9.4 วินาที แถมวิ่งไกลสุดต่อการเติมเพียงหนึ่งครั้ง 650-850 กม. การเติมหนึ่งครั้งเพียงเวลา 3-5 นาที พร้อมความปลอดภัย Toyota Safety Sense
🟢🟢 Toyota Mirai เวอร์ชันล่าสุด ที่มีการทำตลาดในต่างประเทศ ทั่วโลก มี 2 ระดับ ได้แก่ XLE และ Limited โดย XLE จะเป็นรุ่นที่ทำระยะทางได้ไกล หากเติมไฮโดรเจนเต็มถัง จะเดินทางได้ไกลถึง 643 กม. (ตามมาตรฐาน EPA) ส่วนรุ่น Limited เดินทางได้ 571 กม. และเป็นรุ่นเดียวที่ใช้งานระบบ Teammate ซึ่งประกอบไปด้วยฟังค์ชัน Advanced Park เป็นมาตรฐานสำหรับรุ่น Limited
ราคาของ Toyota Mirai ในต่างประเทศ ไม่เปลี่ยนแปลงไปจากปีที่แล้ว โดยรุ่น XLE จะมีราคาประมาณ 💥 1.7 ล้านบาท 💥 (50,525 เหรียญสหรัฐ) ส่วนรุ่น Limited มีราคาประมาณ 💥 2.2 ล้านบาท 💥 (67,025 เหรียญสหรัฐ )
Toyota Mirai FCV Gen 2 ใช้เซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจน รุ่นที่จะนำมาเปิดตัวในเมืองไทย เป็นเวอร์ชันปรับปรุงใหม่ โดยรถคันดังกล่าวเปิดตัวครั้งแรกในประเทศญี่ปุ่น วันที่ 9 ธันวาคม 2020 ราคาขายในญี่ปุ่น แบ่งเป็น 5 รุ่นย่อยเริ่ม 7,100,000 – 8,050,000 เยน หรือประมาณ💥 2.0 -2.32 ล้านบาท 💥 ยังไม่รวมภาษีบ้านเรา (โดยรุ่นเริ่มต้นระยะทางวิ่งได้ 750 กม.)
ราคาในเมืองไทย ก็น่าจะใกล้เคียงกับทางญี่ปุ่น ขึ้นอยู่กับว่า รัฐบาลจะออกมาตรการสนับสนุน เหมือนรถยนต์ไฟฟ้าหรือไม่ ถ้ามีจริงราคาน่าจะถูกลงอีกหลายตังค์ครับ ที่สำคัญ จะมีการนำรถรุ่นนี้ มาโชว์ในงาน Motor Expo ปลายเดือนนี้ แน่นอน อย่าลืมไปชมกันน่ะครับ
