Toyota Motor ญี่ปุ่น สั่งหยุดรับจอง LEXUS LX เนื่องจากต้องรอคิวยาวไปถึง 4 ปี หรือ 48 เดือน ถึงจะส่งมอบรถให้ลูกค้าได้ จากปัญหาขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ รวมทั้ง LEXUS NX ก็เผชิญชะตากรรมเดียวกัน ลูกค้าต้องรอถึง 12 เดือน บริษัทแม่ยันเพิ่มผลิตตามเป้า เป็น 850,000 คันต่อเดือน สร้างสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์การผลิตของ Toyota หวังแก้ปัญหาได้
Automotive News รายงานว่า มีการเข้าคิวรอรับรถ LEXUS LX นานถึง 48 เดือน ในประเทศญี่ปุ่น บ้านเกิดของ Lexus ทั้ง 2 รุ่นนี้ จนทำให้ทาง Lexus ต้องออกมาปิดรับจอง LX แต่ปัญหานี้ ไม่ได้ส่งผลที่ลูกค้าในสหรัฐอเมริกัน เนื่องจาก Lexus US ยังคงเปิดรับจอง LX ต่อไป
“ถ้าหากคุณได้สั่งซื้อ LEXUS LX ไว้ ต้องใช้เวลานานประมาณ 4 ปี ในการส่งมอบรถ” ทาง Lexus แจ้งต่อลูกค้าบนเว็บไซต์ อย่างไรก็ตาม บริษัทยังระบุว่า ระยะเวลาอาจเปลี่ยนแปลงได้เสมอ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์การผลิตในอนาคต”
ในขณะที่รุ่นน้อง ที่เปิดตัวก่อนไม่นานอย่าง LEXUS NX ก็เจอปัญหาเดียวกัน จากความนิยมเกินคาด ทำให้ลูกค้าต้องรอถึง 12 เดือน และก็ปิดรับจองไปเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ Lexus เปิดตัว NX รุ่นล่าสุด เมื่อเดือนมิถุนายน ปี 2021 และต่อมาได้เปิดตัวด้วย LX ในเดือนตุลาคมปีเดียวกัน
ก่อนหน้านี้ โตโยต้าได้ประชาสัมพันธ์การหยุดผลิตในโรงงานญี่ปุ่นบางแห่ง เนื่องจากการขาดส่วนประกอบในการผลิต รวมทั้งข้อจำกัดของอุปทาน และ โรคระบาดโคโรนาไวรัส โควิด-19 ซึ่งส่งผลต่อการดำเนินการผลิตในแต่ละวัน ในเดือนกรกฏาคม 2022 TOYOTA และ Lexus บอกซัพพลายเออร์ในช่วงต้นปีว่า จะต้องผลิต 800,000 คันต่อเดือนทั่วโลก โดย 250,000 คันในญี่ปุ่นและอีก 550,000 คันในต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม แผนการผลิตทั่วโลกได้ลดลงประมาณ 50,000 คันเนื่องจากการขาดแคลนชิ้นส่วนอย่างต่อเนื่อง
ปัญหาการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ ที่ยืดเยื้อมาเกือบปีแล้ว ทำให้สายพานการผลิตรถยนต์ของทุกค่ายได้รับผลกระทบไม่มากก็น้อย ยักษ์ใหญ่อย่าง Toyota ก็ไม่ได้รับการยกเว้น จึงเกิดการประกาศอย่างเป็นทางการถึงแผนการผลิตที่ต้องลดจำนวนลง โดยหยุดการผลิตในบางโรงงาน นอกจากนี้ ไม่เพียงแต่การขาดแคลนชิปที่เป็นสาเหตุหลัก แต่ผลกระทบยังส่งไปถึงชิ้นส่วนอื่นๆ ด้วย จากข้อกำหนดที่เกิดจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ยังมีอยู่ในบางประเทศ
ToYota Japna คาดว่า กำลังการผลิตจะกลับมาในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า โดยจะผลิตเป็น 850,000 คันต่อเดือน ตั้งแต่กรกฏาคม ถึง กันนายนนี้ แม้ว่าจะเสียกำลังการผลิตกว่า 400,000 คัน นับตั้งแต่ 1 เมษายนที่ผ่านมา แต่คาดการณ์สำหรับ แผนการผลิตทั้งปี ประมาณ 9.7 ล้านคัน หากประสบความสำเร็จ Toyota (และ Lexus) จะสร้างสถิติการผลิตประจำปีใหม่
ปัญหาดังกล่าว สร้างความกดดันให้กับ Toyota ญี่ปุ่น เป็นอย่างมาก เพราะถ้าหากยืนยันที่จะทำการผลิตตามแผนเดิม 850,000 คันต่อเดือน ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ของ Toyota (รวม Lexus ด้วย) แต่ถ้าวัตถุดิบ หรือ เซมิคอนดักเตอร์ เกิดชิปขาดแคลนอีก ก็เป็นเรื่องยาก ที่จะทำได้ตามแผน ต้องรอดูว่า Toyota จะจัดการปัญหานี้อย่างไร
Lexus LX เจนเนอเรชั่นที่ 4 ได้เปิดราคาอย่างเป็นทางการในราคาจำหน่าย 95,000 – 126,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 3.15 – 4.10 ล้านบาท โดยเริ่มต้นด้วย LX 600 มาพร้อมระบบขับเคลื่อนแบบสี่ล้อ Lexus Safety System + 2.5 เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ส่วน LX 600 Premium เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งระดับ รุ่นพรีเมียมเพิ่มที่นั่งแถวพิเศษ การทำงานของประตูท้ายแบบแฮนด์ฟรี และระบบกันสะเทือนแบบปรับได้
รุ่นสเป็คกลางของ LX คือรุ่น F Sport Handling ด้วยราคา 101,000 เหรียญสหรัฐ ตกแต่งที่มีเอกลักษณ์ พร้อมด้วยการปรับแต่งช่วงล่างที่เฉพาะสำหรับรุ่นนี้ รวมถึงการตั้งค่าระบบกันสะเทือนของ F Sport เฟืองท้ายแบบลิมิเต็ดสลิป แดมเปอร์และเหล็กกันโคลงด้านหลัง
รุ่น LX Luxury ได้ โมเดลดังกล่าวมีราคาเริ่มต้นที่ 103,000 เหรียญสหรัฐฯ และตกแต่งด้วยหนังกึ่งอนิลีน ล้ออัลลอยด์ขนาด 22 นิ้ว และระบบเสียงรอบทิศทาง Mark Levinson ลำโพง 25 ตัว เบาะนั่งแถวที่สองระบายอากาศ และเบาะแถวที่สามพับไฟฟ้า
รุ่นท็อปคือ LX 600 Ultra Luxury ที่ 126,000 เหรียญสหรัฐ แถว 2-3 แทนด้วยเก้าอี้ของกัปตัน คอนโซลกลางด้านหลังพร้อมโต๊ะแบบเปิดออก ระบบความบันเทิงด้านหลัง และ เครื่องนวดเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
Lexus ยืนยันว่า LX600 จะมีให้เลือกในรุ่น Standard, Premium, Luxury, Ultra Luxury และ F Sport เริ่มจากรุ่น F Sport โดดเด่นด้วยกระจังหน้าแบบตาข่ายพร้อมขอบโครเมียมสีดำ ล้ออลูมิเนียมฟอร์จขนาด 22 นิ้ว เบาะนั่งแบบสปอร์ต พวงมาลัยสปอร์ตยึกเกาะดีขึ้น F Sport มาพร้อมแดมเปอร์ที่ปรับจูนมาเป็นพิเศษ รวมถึงระบบกันสะเทือนแบบแปรผันที่ปรับปรุงใหม่ ระบบพวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า ประกอบเข้าด้วยกันด้วยเฟืองท้ายแบบลิมิเต็ดสลิป Torsen
LX 600 Ultra Luxury เน้นความพรีเมียม มากพร้อมเบาะนั่งด้านหลังสองที่นั่งแยกกันพร้อมพนักพิงศีรษะแบบโค้ง พนักพิง และเบาะรองนั่งที่โอบรอบศีรษะ สะโพก และลำตัวส่วนล่างอย่างนุ่มนวล เพื่อความสบาย เบาะนั่งด้านหลังแยกจากกันด้วยคอนโซลกว้างซึ่งมีที่ชาร์จสมาร์ทโฟนไร้สาย ที่วางแก้วแบบมีฝาปิด และกล่องเก็บของขนาดใหญ่พร้อมแหล่งจ่ายไฟ DC รวมถึงพอร์ต USB คอนโซลยังมีจอแสดงผลขนาดเล็กที่สามารถใช้ควบคุมเบาะนั่งและระบบควบคุมสภาพอากาศได้
Ultra Luxury มาพร้อมกับช่องระบายอากาศบนเพดานเหนือศีรษะแบบพิเศษ สามารถเพิ่มลมร้อน และ ความเย็น รวมทั้งติดตั้งม่านบังแดดด้านหลัง และ ไฟอ่านหนังสือ สามารถเลื่อนเบาะผู้โดยสารด้านหน้าข้างข้างหน้าอีก ลดพนักพิงศีรษะ จากนั้นเอียงเบาะ จะเพิ่มพื้นที่วางขา 43 นิ้ว
