Search
Close this search box.

Ford Everest Platinum เครื่องดีเซล V6 3.0 คันนี้ 2,279,000 บาท !

ในบรรดากลุ่มรถ PPV ของตลาดบ้านเราขณะนี้ รถ Ford Everest ถือว่ามาแรงแซงโค้งกระชากยอดขายมาอยู่เป็นเบอร์ต้นๆของตลาดได้อย่างภาคภูมิเลยทีเดียวเชียวกลุ่มตลาดที่เป็นคู่ต่อกรไม่ว่าจะเป็น Nissan Terra, Toyota Fortuner, Isuzu Mu-X, Mitsubishi Pajero Sport ทั้งหลายเหล่านี้เจ้า Ford Everest สู้ได้หมด

Ford Everest Platinum นี้เป็นตัวรุ่นย่อยใหม่ล่าสุดของฟอร์ดที่ออกมาในราคา 2,279,000 บาท วางเครื่องดีเซล V6 3.0 เทอร์โบ 250 แรงม้า 600 นิวตันเมตร ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ (Full-Time) โหมดการขับขี่ 4 A (4 Auto) Shock Up และ Coil Spring ได้ปรับจูนกันมาใหม่ ส่วนล้อเป็นอัลลอยขนาด 275/45 R21

Ford ได้ออกแบบรุ่นใหม่นี้นอกจากกระจังหน้าและกระจกมองข้างดีไซน์ใหม่แล้ว ฟอร์ดจะค่อนข้างเน้นคำว่า Platinum มากเป็นพิเศษ สังเกตุเห็นได้จาก Platinum มีปรากฏอยู่รอบๆคัน ทั้งฝากระโปรงด้านหน้า ประตูหน้า ฝากระโปรงหลังและรวมทั้งภายในห้องโดยสารด้วย ส่วนด้านข้างจะมีสัญลักษณ์ V6

6 จุดเด่นๆจาก Ford Everest Platinum

1. Mood & Tone โดยรวมๆ FORD EVEREST จะเป็นรถที่ดูดุดัน แข็งแกร่งอยู่แล้ว แต่รุ่นนี้จะแฝงไว้ด้วยความเป็นพรีเมี่ยม ทั้งภายนอก และภายใน เสน่ห์จะแตกต่างกับรุ่นอื่นๆ เป็นรถสไตล์ครอบครัวอ ที่ดูเท่ๆ ไปอีกแบบ

2. รุ่นนี้เป็นรุ่น TOP สุด Option และระบบการใช้งาน ต่างๆ ค่อนข้างมีความสมบูรณ์แบบ อย่างเช่น ระบบมาตรฐาน Blind Spot กล้อง 360 องศา เบรกมือไฟฟ้า ออโต้เบรคโฮลด์ และมี Apple Car Play เชื่อมต่อไร้สายไว้ใช้งานต่างๆ ได้ง่ายและสะดวกด้วย

3. หากเปรียบเทียบกับรถในกลุ่มตลาดเดียวกัน ราคาของ Ford Everest Platinum นี้อาจจะโดดพอสมควร แต่ถ้าหากเอาไปเปรียบเทียบกับรถยุโรป อย่าง Mercedes-Benz GLE, BMW X5, Volvo XC90 หรือ Audi Q7 ราคาก็จะทะยานไปที่ราวๆ 5 ล้านกว่าบาท ห่างกัน 2-3 ล้านเลยทีเดียว แต่ก็อย่างว่าแบรนด์ยุโรปกับแบรนด์ญี่ปุ่นการขับขี่มันคนละฟิลลิ่งกันแม้ว่าออฟชั่น ขนาดตัวรถ พื้นที่ภายในจะใกล้เคียงกันก็ตามเถอะ

4. พื้นที่ภายในห้องโดยสาร โดยเฉพาะแถวที่สอง พื้นที่ค่อนข้างกว้างขวาง จากที่ได้ลองนั่ง ไม่ว่าจะเป็น รถตอนจอดนิ่ง หรือว่าขณะขับใช้งาน ฟิลลิ่งโอเค ระดับของเบาะแถวสองจะสูงกว่าด้านหน้าเล็กน้อย อีกทั้งมุมมองกระจกด้านข้างเบาะแถวสองใหญ่ ทัศนวิสัยดี ระบบไฟส่องสว่างต่างๆทั้งด้านหน้าและด้านหลังมีมาให้ครบครัน

ส่วนเบาะนั่งแถวที่สามนั้นหากใช้งานแบบจริงจังสำหรับผู้ใหญ่คงไม่เหมาะเพราะค่อนข้างแคบ น่าจะเหมาะกับเด็กๆมากกว่า แต่จะมีช่องเก็บของให้อยู่ด้านข้างและมีแอร์หลังให้มา หรือถ้าจะปรับเบาะแถวสามเป็นพื้นที่เก็บของก็สามารถทำได้

5. ในเรื่องของการขับขี่ส่วนตัวแล้วจะได้ฟิลลิ่งที่ค่อนข้างนุ่มๆนวลๆไปได้เนียนๆ ไม่ได้แรง ดุดันมากนัก แต่ก้อสนุกพอหอมปากหอมคอเมื่อกดคันเร่งลึกๆ ลงไปที่ร้อยกว่าๆ เกียร์ 10 สปีดเล่นได้สนุก ด้านการเก็บเสียงก็โอเค ตอบโจทย์ได้ดี จัดว่าเป็นรถเหมาะกับครอบครัวแบบพรีเมี่ยม มากกว่าจะไปแนวๆ ออฟโรด แต่ก็สามารถลุยได้สบายๆ

6. Ford Everest Platinum มีจำนวนจำกัดแค่ 350 คัน ด้วยความพิเศษไม่ค่อยเหมือนใคร ก็เลยทำให้ไม่พอขาย ทางฟอร์ดจึงต้องเพิ่มจำนวนการขายมาอีกหน่อย ซึ่งก็จะลดเสน่ห์ความเป็นลิมิเต็ด เอดิชั่น ลงไปนิดนึง

ได้ลองขับและสัมผัสกับ Everest Platinum ลิมิเต็ด เอดิชั่น รุ่นนี้แล้ว ในเรื่องของอัตราการเร่งทั้งในระดับความเร็วต่ำ กลาง ไปถึงสูง จะตอบสนองใช้ได้เลย จะขับขับในเมืองหรือนอกเมืองก็โอเคมากๆ อย่างการลองขับที่ความเร็วคงที่ 50 - 60 กิโลเมตร / ชั่วโมง จะไปได้เนียนๆ แต่เมื่อลองกดคันเร่งคิกดาวน์เพื่อจะทำความเร็วมากขึ้น จะรู้สึกมีจังหวะชะงักนิดนึงไม่ถึงหนึ่งวินาที ก็ไม่ใช่ปัญหาอะไร

พวงมาลัยควบคุมได้ดี กระชับมือ น้ำหนักไม่หนักเกินไป เบาะนั่งสบาย ปรับไฟฟ้า มีเมมโมรี่เฉพาะฝั่งคนขับ ทัศนวิสัยในการขับขี่กว้าง กระจกด้านข้างใหญ่ชัดแจ๋ว กระจกหลังก็ชัดเจนดี

ถ้าไม่ได้ซีเรียสเรื่องราคา Ford Everest Platinum รุ่นนี้ก็จัดว่าเป็น PPV ที่น่าสนใจอีกรุ่นนึง เพราะมีมาให้ค่อนข้างครบเครื่อง ทั้งออฟชั่นต่างๆ สมรรถนะ พละกำลังและความสะดวกสบาย ก็จะตอบโจทย์ได้ดี

แต่ถ้าถามว่าประหยัดน้ำมันไม๊ ?

คำตอบก็คือมันอยู่ที่พฤติกรรมการขับและการใช้งานของแต่ละคนมากกว่า ข้อมูลที่ได้จากที่ลองขับมาถ้าขับในเมืองเป็นหลัก อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันนั้นก็จะได้ประมาณ 8 - 9 กิโลเมตร / ลิตร แต่ถ้าขับนอกเมืองหรือไปต่างจังหวัดอาจจะเฉลี่ยได้ 10 - 11 กิโลเมตร / ลิตร ทั้งหลายทั้งปวงจะอยู่ที่การขับขี่ของแต่ละท่านด้วยเช่นกัน

เกือบลืมบอกไปว่าตามมาตรการของ Euro 5 เราจะต้องเติม Ad blue ด้วยนะครับ เติมตามการเช็คระยะ ซึ่ง Ad blue จะมีให้เลือก 2 ขนาด คือ 3.78 ลิตร ราคา 340 บาท และขนาด 9.45 ลิตร ราคา 800 บาท แต่ถ้าบางช่วงที่มีการจัดโปรโมชั่นก็อาจจะเติมฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายครับ