Search
Close this search box.

Review All-New Honda Accord (2024)

Honda Accord นั้นดีหรือไม่ สิ่งแรกที่เราต้องพูดถึงเลยคือการออกแบบของรถคันนี้ ซึ่งถ้าเราดูจากในภาพ บอกได้เลยว่ามันจะแตกต่างจากคันจริงพอสมควร ซึ่งบางคนอาจจะบอกว่ามันถ่ายรูปไม่ขึ้นผมก็บอกได้เลยครับว่าจริง

ถ้าท่านใดสนใจ Honda Accord Generation ที่ 11 คันนี้อยู่และอยู่ในช่วงการตัดสินใจ แนะนำให้มาดูคันจริงก่อนครับ เพราะฟิลลิ่งมันจะแตกต่างจากในรูปพอสมควรเลย ที่ผมเห็นอยู่ตอนนี้จะมีอยู 3-4 สี นั่นคือ สีขาว, สีเทา, สีเทาเงิน และสีดำ สีที่ผมชอบที่สุดก็คือสีดำครับเพราะดูสปอร์ทและโฉบเฉี่ยวมากที่สุด และทรงของคันนี้ออกแบบมาได้มีความสปอร์ทมาก ๆ และภายในก็จะเป็นสีดำล้วนสีเดียว

อีกจุดนึงที่เป็นส่วนสำคัญนั่นคือล้ออัลลอยของตัว RS, EL และ E ที่จะมีความแตกต่างกัน สำหรับผมคิดว่าล้อของตัว RS และ EL จะสวยกว่ารุ่น E เยอะครับ

ด้านท้าย ฝากระโปรงท้ายจะไม่ได้เป็นไฟฟ้าซึ่งน่าเสียดายมาก แต่ถ้าเราต้องการใช้พื้นที่ด้านท้ายรถคันนี้ตอบโจทย์เลยครับ ซึ่งก็ไม่ใช่แค่รุ่น Accord นะครับของรุ่นอื่น ๆ ทาง Honda เองเค้าก็ให้พื้นที่มาเหลือเฟือเกือบทุกรุ่นครับ รุ่นนี้พิเศษตรงที่สามารถพับเบาะหลังเพื่อเพิ่มพื้นที่ได้ด้วยโดยดึงสลักที่ด้านบน รวมทั้งคันนี้จะไม่มียางอะไหล่ให้จะมีเพียงชุดอุปกรณ์ให้เท่านั้นครับ

อีกจุดนึงคือรถคันนี้จะไม่มี Blind Spot ติดตั้งมาให้ วัสดุแผงประตูและคอนโซลหน้าสำหรับผมจะให้ความรู้สึกแปลกสักนิดเพราะผมรู้สึกว่ามันจะมีความรู้สึกจะคล้ายโฟมเมื่อสัมผัส ซึ่งวัสดุตัวนี้เรียกว่า ซอฟยูริเทนครับ จะให้สัมผัสที่นุ่นและอาจจะให้ความรู้สึกที่แปลกไปสักนิด ส่วนด้านล่างของแผงประตูหุ้มหนังมาทำให้ดูพรีเมี่ยม

ส่วนเบาะของคันนี้ถึงแม้ว่าจะปรับไฟฟ้าสูง-ต่ำได้ แต่ด้วยทรงของรถที่ดูสปอร์ทมาก ๆ อาจจะทำให้รู้สึกว่าเบาะจะต่ำถึงแม้ว่าจะปรับขึ้นสูงแล้วก็ตาม สำหรับคนที่ไม่ได้ชอบขับรถทรงสปอร์ทอาจจะติดในเรื่องนี้ อยากให้ลองมานั่งกันก่อนนะครับ

ส่วนเรื่องหน้าจอ คุณสามารถเข้า Google Maps หรือ Spotify จากหน้าจอนี้ได้เลย ด้านใต้จอจะมีตัวปรับแบบหมุนที่สามารถ Set ระบบปรับอากาศของเราได้พร้อมทั้งสามารถเลือกเป็น Selection 1, 2 ได้เหมือนระบบ Memory Seat แต่อันนี้เป็นระบบแอร์ ซึ่งระบบนี้ดีมาก ๆ ครับ

กลับมาที่หน้าจอกับระบบ Honda Lane watch ภาพที่เห็นจะไม่ได้ชัดมากแต่ใช้งานได้ดี อีกระบบนึงคือกล้อง 360 องศา ซึ่งภาพจะชัดกว่าตัวกล้องของ Lane Watch และดูได้แต่ภาพกว้างเท่านั้นจะซูมภาพเข้าไปไม่ได้

ระบบ Wireless Charger จากที่ได้ลองชาร์จไว้ตอนเวลา 12.10 น. แบตเตอรี่ 69% และได้ลองชาร์จไว้เป็นเวลา 40 นาทีแบตเตอรี่ขึ้นมาอยู่ที่ 80% ขึ้นมา 11% และโทรศัพท์ไม่ร้อนถือว่าโอเคเลยนะครับ เมื่อเทียบกับคันอื่นที่เคยลองมาบางคันจะแทบไม่ขึ้นเลย

ในด้านการขับขี่ All-New Honda Accord Generation 11 อย่างแรกที่รู้สึกได้เลยคือเบาะจะต่ำอยู่พอควร เมื่อเทียบกับ Generation 9-10 ที่จะมีความเป็นรถครอบครัวมากกว่าแต่ของรุ่นนี้มีความสปอร์ทถึงประมาณ 80% ถ้าใครชอบแนวสปอร์ทพรีเมี่ยม รถคันนี้ตอบโจทย์ครับ

ด้านพละกำลังการขับขี่เครื่องยนต์ Hybrid ของ Honda ถือว่าเป็นจุดเด่นอยู่แล้ว เวลาเร่งตอบสนองได้ดี รวมทั้งระบบเบรคก็ทำงานได้ดี เหยียบแค่ 30% ในขณะที่ใช้ความเร็วค่อนข้างสูงก็เอาอยู่ครับ ซึ่งถ้าขับในเมืองก็แทบจะไม่ได้ออกแรงเลยครับ

อัตราเร่งของคันนี้มีความเร็วและแรง แต่เราอาจจะไม่ค่อยรู้สึกเนื่องจากรถคันนี้เก็บเสียงจากภายนอกได้ดี ไม่ว่าจะเป็นเสียงจากล้อ จากลม หรือรถคันอื่นก็จะไม่ดังในห้องโดยสารมากหรือแทบจะไม่ได้ยินเลย แต่สียงเดียวที่เราจะได้ยินก็คือเสียงจากการเร่งเครื่องยนต์ และเครื่องยนต์ Hybrid ปรกติเราจะได้ยินเสียงมอเตอร์อยู่บ้าง แต่คันนี้เบามาก ๆ ครับ ผมลองเร่งไปที่ 140 กม./ชม. เพิ่งจะเริ่มได้ยินเสียงลมเข้าอยู่นิดหน่อยครับ และถ้าคุณเคยขับรถของ Honda อยู่แล้วก็จะรู้เลยว่ารถจะตอบสนองได้เร็วโดยที่ไม่ต้องรอรอบเลย ไม่ว่าจะอยู่ในความเร็วสูง หรือความเร็วต่ำ

ผมทดลองขับ 0-100 กม./ชม. ในโหมด Normal ใช้เวลาประมาณ 9 วินาที ซึ่งถือว่ากำลังดีกับรถที่มีน้ำหนักถึง 140 กก. ซึ่งข้อนี้ถือว่าเป็นจุดเด่นของ Honda เลยก็ว่าได้ ตอบโจทย์คนที่ชอบความเร็วทันใจแน่นอน ทดลองในโหมด Sport ใช้เวลาเพียง 8.15 วินาที เท่านั้น ซึ่งถ้าเปรียบเทียบระหว่าง 2 โหมดนี้ โหมด Sport จะมีความดุดันและขับขี่สนุกมากกว่าครับ

การเกาะถนนรถคันนี้เกาะถนนได้ดีพอสมควรเนื่องจากเป็นรถที่ค่อนข้างเตี้ย และเป็นทรงสปอร์ท เวลาเข้าโค้งจะรู้สึกได้เลยว่ามั่นใจได้

ในเรื่องของ Handling ตามความรู้สึกของผมน้ำหนักจะไม่ได้เบาจนเกินไปแต่หนักกำลังดี เมื่อเทียบกับ Honda รุ่นอื่น ๆ น้ำหนักจะเบากว่ารุ่นนี้ แต่คันนี้ถ้าเทียบความหนักของพวงมาลัยจะอยู่ที่ระดับกลางขึ้นไปขึ้นอยู่กับโหมดการขับขี่ และความเร็วในการขับขี่ด้วยครับ และพวงมาลัยจะไม่ได้เป็นแบบปรับไฟฟ้า

ระบบความปลอดภัยของคันนี้มีให้เยอะมาก ๆ เว้นแต่จุดที่สำคัญที่สุดนั่นคือ Blind Spot เพราะกระจกมองข้างของคันนี้ขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไป และอาจจะมีมุมบอดอยู่บ้างซึ่งถ้ามี Blind Spot ไว้ให้มันจะช่วยได้เยอะ และรถคันนี้ที่เป็นทรง Sport อาจจะมีบางมุมที่เป็นมุมบอดอยู่ แต่ในส่วนที่เค้าให้มาทดแทนนั่นคือ Honda Lane Watch ที่จะมีมาให้แค่ฝั่งซ้ายมือ ซึ่งคุณภาพของกล้องจะไม่ได้ชัดซะทีเดียวแต่ก็ไม่กระทบต่อการใช้งาน แต่ถ้าใช้ตอนกลางคืนภาพจะไม่ค่อยชัดเท่าที่ควร

อีกระบบที่ผมชอบคือระบบ Google Maps ที่ Building เข้ามาให้เลยแถมยังมีระบบ Google Assistant เข้ามาช่วยด้วยเพียงเราพูดว่า OK Google และพูดชื่อสถานที่ระบบจะขึ้นสถานที่ และนำทางเราไปได้เลย แล้วยังสามารถกดสั่งการระบบ Voice Command จากพวงมาลัยได้ด้วย บางคนอาจจะคิดว่าเราใช้ Apple CarPlay อยู่แล้วแต่ข้อเสียของ Apple CarPlay คือมันจะขึ้นโชว์ Notification ของแอพอื่นขึ้นมาด้วยเช่น Line นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชั่นอื่น ๆ อีกมากมาย แต่ผมแค่ยกส่วนนี้มาเป็นไฮไลท์ที่ผมได้ใช้ซะเป็นส่วนใหญ่ครับ

กระจกมองหลังไม่ได้กว้างมากทรงจะคล้าย ๆ พวกรถคูเป้ ซึ่งจะกระชับฟิต ๆ หน่อยแต่ก็เห็นรถด้านหลังได้ชัดเจน

รถคันนี้จะมีระบบ Head up Display ให้ด้วยซึ่งตัวเลขและฟ้อนจะขนาดใหญ่ชัดเจนรวมทั้งจะแสดงระบบต่าง ๆ ที่เราใช้งานอยู่ไม่ว่าจะเป็นระบบ Adaptive Cruise Control หรือถ้าเราใช้ Google Maps อยู่ระบบจะโชว์การนำทางให้ที่ Head up Display ด้วย

สรุปโดยรวมในเรื่องการขับขี่ของ All-New Honda Accord คันนี้ Top Speed จะอยู่ที่ 200 กม./ชม. อัตราเร่ง 0-100 ของทั้ง 3 รุ่นจะอยู่ที่ รุ่น RS ใช้เวลา 7.8 วินาที รุ่น EL 7.6 วินาทีและรุ่น E 7.4 วินาที เรื่องอัตราสิ้นเปลืองจากที่ผมทดลองขับที่ 127 กม. อัตราสิ้นเปลืองอยู่ที่ 16.9 กม./ลิตรโดยประมาณ ซึ่งการขับของผมจะไม่ได้ขับแบบเน้นประหยัดเลยแต่เป็นการขับทดลองสมรรถนะเต็มที่ ซึ่งตัวเลขนี้ถือว่าโอเคเลยนะครับ

ส่วนเบาะด้านหลังถ้าเทียบกับ Accord รุ่นก่อน ๆ จะรู้สึกเลยว่าของรุ่นนี้เบาะจะสูงกว่าเมื่อเทียบกับเบาะด้านหน้าซึ่งดีครับจะช่วยสำหรับคนที่เวียนหัวง่าย และสัดส่วนที่นั่งกับกระจกอยู่ในสัดส่วนที่พอดี พื้นที่ Leg Room สำหรับรุ่นนี้ไม่ต้องพูดถึงเลยครับ หายห่วงเหลือเฟือ ผมสูง 170 ซม. ยังวางขาได้สบาย ๆ กระจกด้านข้างจะมีม่านมาให้ด้วย ที่เท้าแขนเบาะหลังจะมีที่วางแก้วน้ำให้ 2 ช่อง โดยรวมเบาะหลังนั่งได้สบาย ๆ ครับ

การเปรียบเทียบกับรุ่นนี้ตอนนี้แน่นอนเลยว่าจะมี Toyota Camry ถ้าค่ายจีนก็จะมี BYD Seal หรือ ORA 07 ถ้าคุณจะไปทางรถไฟฟ้าก็ต้องไปค่ายจีน แต่ถ้าจะมาทางเครื่อง Hybrid ก็ต้องดู Toyota Camry ซึ่งตอนนี้อาจจะมีการออก Model ใหม่ในปีหน้าครับ

*สามารถชมคลิปรีวิวฉบับเต็มได้ที่ Link ด้านล่างนี้เลยครับ