สำหรับรถ OMODA C5 EV เป็นยนตรกรรม EV 100% ที่ผสมผสานการออกแบบแห่งอนาคต เข้ากับ 17+1 เทคโนโลยีสุดอัจฉริยะ ADAS+DMS พร้อมทั้งฟังก์ชันความปลอดภัยและความสะดวกสบายแบบจัดเต็ม แบ่งออกเป็นสองรุ่นย่อย ได้แก่ รุ่น OMODA C5 EV Long Range Plus ที่มีสี Lunar White, Space Black และ Mercury Grey ราคา 899,000 บาท และรุ่น OMODA C5 EV Long Range Ultimate ที่มีสี Lunar White (Black Roof), Space Black, Mercury Grey, Volcanic Red และ Mint Green (Black Roof) ราคา 949,000 บาท และสำหรับรถ JAECOO 6 EV รถออฟโรดพรีเมียมพลังงานไฟฟ้า 100% ที อัดแน่นไปด้วยพลังสุดแข็งแกร่งและสุนทรียะที่งดงาม ด้วยการออกแบบพื้นที่ขนาดใหญ่ทรงลูกบาศก์หลากมิติ พร้อมมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ไม่เคยมีมาก่อนให้กับผู้ขับขี่ กับโหมดการขับขี่ 6 แบบที่ตอบโจทย์ทั้งการขับขี่ในเมืองและการขับขี่แบบสมบุกสมบัน มีโหมดตั้งแคมป์อัจฉริยะ ฟังก์ชันสำหรับวางแผนการเดินทางแบบยืดหยุ่น 4+2 โดยมี 2 รุ่นด้วยกัน ได้แก่ รุ่น JAECOO 6 EV Long Range 2WD ราคาคาดการณ์ 1,099,000 บาท และรุ่น JAECOO 6 EV Long Range 4WD ราคาคาดการณ์ 1,249,000 บาท พร้อมข้อเสนอและโปรโมชันสุดพิเศษ
อย่างไรก็ดี เมื่อต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา OMODA & JAECOO ได้คิกออฟส่งรถ JAECOO 6 EV ออกจากเมืองอู๋หู ประเทศจีน มุ่งหน้าสู่ท่าเรือแหลมฉบัง ประเทศไทย เพื่อเตรียมส่งมอบให้กับลูกค้าต่อไป นอกจากนี้ ในเดือนตุลาคมที่จะถึงโอโมดา แอนด์ เจคู ประเทศไทย ได้ร่วมมือกับ Garmin เป็นสปอนเซอร์หลักของงาน Garmin Run Asia Series 2024 Thailand Half Marathon ซึ่งตอนนี้ยังสนใจรับสมัครนักวิ่งเข้าร่วมอยู่ โดยความร่วมมือในครั้งนี้จะชูจุดเด่นของ JAECOO 6 EV ให้กับผู้สนใจผ่านกิจกรรมมาราธอนในครั้งนี้ และยังร่วมมือผลิตนาฬิกา Garmin รุ่นเอ็กซ์คลูสีฟ JAECOO | Garmin Forerunner 165 สำหรับผู้ขับขี่ชาวไทย 1,000 คนแรกอีกด้วย