Search
Close this search box.

Toyota เปิดตัว SUV “New Toyota Corolla Cross 2024”

นายกลินท์ สารสิน ประธานคณะกรรมการ มร.โนริอากิ ยามาชิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ พร้อมด้วย นายศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ และนายณัทธร ศรีนิเวศน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท Toyota มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด แนะนำรถยนต์อเนกประสงค์ “New Toyota Corolla Cross 2024” เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2567 ณ ลาน Eden ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์

บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด แนะนำรถยนต์อเนกประสงค์ SUV รุ่น “Corolla Cross” ครั้งแรกของโลกที่ประเทศไทย เมื่อพ.ศ. 2563 โดยเป็นรถที่ได้รับการออกแบบภายนอกให้ดูโฉบเฉี่ยว ปราดเปรียว และมีความแข็งแกร่ง ภายในห้องโดยสารพื้นที่กว้างขวาง พร้อมด้วยพื้นที่เก็บสัมภาระที่ปรับเปลี่ยนได้ ซึ่งนับตั้งแต่การแนะนำ Corolla Cross นั้น ถือเป็นรถรุ่นที่ประสบความสำเร็จ ได้รับความนิยมจากลูกค้าชาวไทยเป็นอย่างดีเสมอมา ด้วยยอดขายสะสมที่ 71,160 คัน ตั้งแต่เดือน กรกฎาคม ปี 2563 ถึง เดือน ธันวาคม ปี 2566

สำหรับ New Corolla Cross ได้มีการปรับปรุงในทุกรุ่นย่อย เป็นการเปิดตัวที่ประเทศไทยเป็นครั้งแรกในโลก ด้วยดีไซน์กระจังหน้าแบบ “Multi-Dimensional Design” ไฟหน้า ดีไซน์ใหม่ แบบ LED Crystalized Headlamp และ ไฟเลี้ยวด้านหน้าแบบ Sequential, ด้วยหลังคา Panoramic Roof แบบ Frameless พร้อมม่านบังแดดปรับไฟฟ้า, ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ Dual Zone ปรับอุณหภูมิซ้าย-ขวาอิสระ ทั้งยังมาพร้อมกับการรองรับเทคโนโลยีใหม่ๆ ด้วย หน้าจอสัมผัสขนาด 10.1 นิ้ว แบบ HD ที่รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย และช่องต่อ USB แบบ type C , ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง BSM และช่วยเตือนขณะถอยรถ RCTA, ระบบช่วยเตือนขณะจอดรถ พร้อมช่วยเบรกอัตโนมัติ Parking Support Brake, ระบบแจ้งเตือนเมื่อลมยางผิดปกติ Tire Pressure Monitoring System, กล้องมองรอบคัน Panoramic View Monitor (PVM) 360° View, สัญญาณเตือนกะระยะ ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง, กล้องวิดีโอบันทึกภาพติดรถยนต์ รวมทั้ง ระบบเบรกมือไฟฟ้า Electronic Parking Brake และระบบหน่วงเบรกอัตโนมัติ Auto Brake Hold

มร.โนริอากิ ยามาชิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวถึงภาพรวมในการดำเนินธุรกิจของ Toyota ในปีที่ผ่านมา พร้อมแนะนำแผนการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในปีนี้ว่า “ ในปีที่ผ่านมา อุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยต้องเผชิญความยากลำบากและการเปลี่ยนแปลงมากมาย ตลาดรถยนต์ในประเทศไทยลดลง 9% โดยเฉพาะเซกเมนต์รถกระบะที่ลดลงถึง 32% ในขณะที่ค่ายผู้ผลิตรถยนต์จากประเทศจีนได้เข้าสู่ตลาด และมีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นจาก 5% ถึง 11% ซึ่งภายใต้ส่วนแบ่งตลาดดังกล่าว สัดส่วนการขายของรถยนต์ไฟฟ้า (BEV) เติบโตขึ้นจาก 1% เป็น 10% อย่างไรก็ตาม ภายใต้สถานการณ์ดังกล่าว Toyotaยังคงมีรถหลายรุ่น ได้แก่ คัมรี ฟอร์จูนเนอร์ เวลอซ และไฮเอซ ที่เป็นผู้นำในเซกเมนต์ต่างๆ นอกจากนั้น ยาริสและเอทีฟก็สามารถครองตำแหน่งยอดขายอันดับหนึ่งในเซกเมนต์อีโคคาร์ด้วยส่วนแบ่งตลาด 45% สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของเรา สำหรับเซกเมนต์รถเอนกประสงค์ SUV Toyota กลับมาครองยอดขายสูงสุดในไตรมาสสุดท้ายของปีที่ผ่านมาหลังจากการแนะนำYaris Cross รวมถึง รถกระบะHilux Revo ที่มีส่วนแบ่งตลาดมากกว่า 40% เป็นสัดส่วนที่สูงสุดนับตั้งแต่ พ.ศ. 2554 เป็นต้นมา ทั้งหมดนี้ ส่งผลให้ส่วนแบ่งตลาดของToyota อยู่ที่ 34.3% สูงที่สุดนับตั้งแต่พ.ศ. 2558 และสูงกว่า พ.ศ. 2565 ที่ 0.3% ซึ่งเราขอขอบคุณลูกค้าชาวไทยที่ได้ให้ความไว้วางใจในผลิตภัณฑ์ของ Toyota เป็นอย่างดีเสมอมา

ทั้งนี้เพื่อมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) เทคโนโลยีพลังงานไฟฟ้า และยานยนต์ไฟฟ้า (BEV) ล้วนเป็นองค์ประกอบที่สำคัญ โดยToyotaยังคงมุ่งเดินหน้าตามกลยุทธ์ในการเตรียมความพร้อมในหลากหลายแนวทาง หรือ “Multiple Pathway” โดยพิจารณาจากปัจจัยทั้งความหลากหลายของลูกค้า การใช้งาน ข้อจำกัดในแต่ละภูมิประเทศ อาทิ โครงสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐาน สภาพถนน ข้อจำกัดทางด้านพลังงาน เป็นต้น หรือกล่าวอีกนัยหนึ่ง Toyota มีความต้องการที่จะมุ่งเติมเต็มชีวิตของผู้คน และนำมาซึ่งรอยยิ้มของลูกค้าให้มากยิ่งขึ้น เราจึงเลือกกลยุทธ์ Multiple Pathway ตามปรัชญา "Mobility for All" โดยที่จะ "ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง" (No One leaves behind)

โดยในปีที่ผ่านมา ส่วนแบ่งตลาดของรถยนต์ไฟฟ้าประเภท BEV ในประเทศไทยได้เติบโตแบบก้าวกระโดด อย่างไรก็ตาม ส่วนแบ่งตลาดของรถยนต์ไฮบริด (HEV) ก็เติบโตขึ้น และยังกลายเป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งของลูกค้าชาวไทย สำหรับประเภทรถยนต์ขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้า ด้วยเหตุผลที่สามารถใช้งานได้จริงอย่างเหมาะสม ลูกค้ามีความอุ่นใจขณะใช้งาน และมีค่าบำรุงรักษาต่ำ รวมไปถึงมีมูลค่าในการขายต่อที่ดี โดยในปีที่แล้ว ส่วนแบ่งตลาดของรถไฮบริด อยู่ที่มากกว่า 12% และในไตรมาสที่ 4 อยู่ที่ 17%

อีกหนึ่งกระแสสำคัญในประเทศไทย คือ ความนิยมในรถยนต์ประเภท SUV โดยในปีที่แล้วนั้น ส่วนแบ่งตลาดของ SUV เพิ่มขึ้นที่ 38% แม้ว่าตลาดรถยนต์รวมจะหดตัวลง 9% ทั้งนี้เนื่องมาจากประโยชน์ใช้สอยของรถ SUV เอง ที่สามารถตอบสนองรูปแบบการใช้งานอันหลากหลาย ทั้งการใช้งานในชีวิตประจำวันในรูปแบบคนเมือง จนถึงการออกไปใช้ชีวิตแบบผจญภัยในช่วงวันหยุด ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ เพื่อความสำเร็จในประเทศไทยต่อไป และนำรอยยิ้มของลูกค้าชาวไทยมาให้มากขึ้น และนี่คือการเปิดตัวรอบ World Premiere ของ Corolla Cross ใหม่ ที่ได้รับการอัพเกรด เพื่อมอบความพรีเมี่ยม เหนือระดับ ด้วยการออกแบบภายนอกที่ล้ำสมัยและได้มาตรฐานของสเปกที่ต้องการ ซึ่งผมหวังอย่างยิ่งว่า New Corolla Cross จะได้รับการยอมรับจากลูกค้าชาวไทยเป็นอย่างดี เหมือนดังเช่นเคย”

นายณัทธร ศรีนิเวศน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ กล่าวถึงแนวคิดในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และจุดเด่นของโคโรลล่า ครอสใหม่ ว่า “โคโรลล่า ครอส รุ่นปรับปรุงใหม่ปี 2567 มีการปรับเปลี่ยนยกระดับดีไซน์ทั้งภายนอกและภายใน ปรับปรุงอุปกรณ์อำนวยความสะดวก ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัย และในขณะเดียวกัน ก็ยังรักษาจุดเด่นของตัวรถด้านประสิทธิภาพการขับขี่ และความประหยัดน้ำมันเอาไว้ เพื่อให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าครอบครัวคนรุ่นใหม่”

“ดีไซน์ภายนอก มีการปรับภายใต้คอนเซปต์ Urban x Premium ให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าที่ใช้งานในเมือง ด้วยไฟหน้า LED โปรเจคเตอร์ดีไซน์ใหม่ แบบ LED Crystalized Headlamp มาพร้อมไฟเลี้ยวด้านหน้า LED แบบ Sequential ดูหรูหรา ล้ำสมัย และให้ทัศนวิสัยที่ดีเยี่ยม และไฟท้ายดีไซน์ใหม่ กันชนหน้า และกระจังหน้าดีไซน์ใหม่แบบ Multi-dimensional ที่ทำให้ตัวรถดูกว้าง ทันสมัย และทรงพลัง ล้ออัลลอยสีทูโทน ดีไซน์ใหม่”

“ภายในปรับเปลี่ยนให้มีความพรีเมียมยิ่งขึ้น ด้วยสีภายในแบบทูโทน มีทั้งหมด 2 สี คือสีดำ และสีใหม่ สี Dark Rose ให้ความรู้สึกหรูหรา เหนือระดับ มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน ทั้ง Frameless Panoramic Roof ขนาดใหญ่ พร้อมม่านบังแดดไฟฟ้า ระบบหน่วงเบรกอัตโนมัติ พร้อมเบรกมือไฟฟ้า EPB มาตรวัดแบบ Full Digital พร้อมจอแสดงผลข้อมูลขับขี่ ขนาดใหญ่ 12.3 นิ้ว ปรับการแสดงผลได้หลากหลาย หน้าจอสัมผัสขนาด 10.1 นิ้ว แบบ HD รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย และอุปกรณ์ ชาร์จไฟแบบไร้สาย”

“ด้านความปลอดภัย รุ่น HEV ทุกรุ่นติดตั้งระบบ Toyota Safety Sense ที่มาพร้อมกับ Dynamic Radar Cruise Control แบบ All-speed พร้อม Stop & Go ลดความเร็วจนถึงจุดหยุดนิ่ง และเร่งกลับสู่ระดับที่ตั้งไว้ เมื่อคันหน้าเคลื่อนตัว กล้องมองรอบคัน PVM ให้ภาพที่เคลียร์ชัด ที่มากับระบบ PKSB ช่วยเตือนขณะจอดรถ พร้อมช่วยเบรกอัตโนมัติ ทำให้การจอดรถในทุกทิศทาง 360 องศา ทำได้ง่าย และปลอดภัย ติดตั้งระบบเตือนมุมอับสายตา BSM และช่วยเตือนขณะถอยหลัง RCTA ให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่นย่อย”

“ด้านสมรรถนะการขับขี่ ด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 1.8 ลิตร และ เครื่องยนต์ไฮบริดขนาด 1.8 ลิตร มีพละกำลังที่เพียงพอต่อการใช้งาน พร้อมอัตราการประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 23.3 กม.ลิตร และปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 98 กรัม/กิโลเมตร ในรุ่นเครื่องยนต์ไฮบริด โครงสร้างตัวถัง และช่วงล่างถูกพัฒนาขึ้นมาบนพื้นฐานตัวถัง TNGA ทำให้การขับขี่เป็นไปอย่างนุ่มนวล และมั่นใจ”

“ในรุ่นใหม่ มีรุ่นย่อยให้เลือกทั้งหมด 4 รุ่นย่อย และมีสีภายนอกทั้งหมด 5 สี พร้อมกับสีใหม่อย่าง Cement Gray Metallic ที่หรูหรา และทันสมัย ด้วยการปรับปรุงในครั้งนี้ เรามั่นใจว่า Corolla Cross จะสามารถตอบโจทย์ และพร้อมพาลูกค้าทุกท่าน ออกไปเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ อีกครั้ง”

นายศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กล่าวถึงแผนการตลาดว่า “ในปีที่ผ่านมา เราได้มีการแนะนำ YARIS CROSS ที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ ที่มีความเต็มที่ในทุกด้าน และในปีนี้ เพื่อให้ Corolla Cross เป็นยนตรกรรมที่สามารถตอบรูปแบบการใช้ชีวิตของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายซึ่งเป็น “ผู้บริหาร และครอบครัวรุ่นใหม่” ได้อย่างสมบูรณ์แบบ Corolla Cross ใหม่ จึงได้รับการพัฒนาต่อยอดจากรุ่นเดิม ให้ผลิตภัณฑ์สมบูรณ์แบบมากขึ้นในหลายๆ ด้าน”

“New Corolla Cross จะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้บริหาร และครอบครัวรุ่นใหม่ ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยคอนเซปท์ “Complete your life ตอบ...ทุกความหมายชีวิต” โดยเรามีพรีเซนเตอร์ครอบครัว รุ่นใหม่ ซึ่งสะท้อนภาพลักษณ์ของกลุ่มลูกค้า Corolla Cross ที่ใช้เวลาว่างทำกิจกรรมสันทนาการต่างๆ กับครอบครัว”

“โดยเราวางเป้าหมายการขายของ New Corolla Cross ใหม่ ไว้ที่ 1,500 คันต่อเดือน และจะเริ่มส่งมอบตั้งแต่วันที่ 9 กุมภาพันธ์ เป็นต้นไป”

New Corolla Cross มาพร้อมทางเลือกสีภายนอก 5 สี และสีภายใน 2 สี

สีภายนอก
    รุ่น HEV Premium Luxury, HEV Premium และ 1.8 Sport Plus
    • ใหม่! สีเทา Cement Gray Metallic
    • สีเทา Celestite Gray Metallic
    • สีขาว Platinum White Pearl
    • สีเงิน Metal Stream Metallic
    • สีดำ Attitude Black Mica

    รุ่น HEV GR Sport
    • สีขาว Platinum White Pearl พร้อมหลังคาดำ
    • สีแดง Red Mica Metallic พร้อมหลังคาดำ
    • สีดำ Attitude Black Mica

สีภายใน
  • ใหม่! สี Dark Rose
  • เฉพาะรุ่น HEV Premium Luxury / HEV Premium ที่สีภายนอกสี Platinum White Pearl, สี Celestite Gray Metallic, สี Attitude Black Mica
  • สี Black
  • เฉพาะรุ่น HEV Premium Luxury / HEV Premium ที่สีภายนอกสี Cement Gray Metallic และ สี Metal Stream Metallic และรุ่น 1.8 Sport Plus
  • สี GR Sport Black
  • เฉพาะรุ่น GR Sport


ดอกเบี้ยพิเศษ ช่วงแนะนำ เริ่มต้นเพียง 1.79%* (ดาวน์ 25%, 48 เดือน) พร้อมประกันภัยชั้น 1 PHYD รวมทั้งข้อเสนอสุดพิเศษสำหรับลูกค้าปัจจุบันของToyota ด้วยส่วนลดดอกเบี้ย 0.3%

สำหรับรุ่นเครื่องยนต์ไฮบริด เกียร์อัตโนมัติ
  • HEV GR-Sport ราคา 1,254,000 บาท
  • HEV Premium Luxury ราคา 1,204,000 บาท
  • HEV Premium ราคา 1,094,000 บาท

สำหรับรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน เกียร์อัตโนมัติ
  • 1.8 Sport Plus ราคา 999,000 บาท

สำหรับสีพิเศษ
- รุ่น GR-Sport สี Platinum White Pearl พร้อมหลังคาสีดำ เพิ่ม 15,000 บาท, สี Red Mica Metallic พร้อมหลังคาสีดำ เพิ่ม 10,000 บาท
- รุ่น HEV Premium Luxury, HEV Premium, 1.8 Sport Plus สี Platinum White Pearl และ Cement Gray Metallic เพิ่ม 10,000 บาท

**ราคาดังกล่าวเป็นราคารถยนต์พร้อมอุปกรณ์มาตรฐานที่ผลิตจากโรงงาน รวมเครื่องปรับอากาศและภาษีมูลค่าเพิ่ม เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด
เชิญสัมผัสและทดลองขับ New Corolla Cross ได้ที่งาน “COMPLETE YOUR LIFE... DRIVE WITH ELEGANCE” ที่ CENTRAL WORLD ชั้น 1 โซน EDEN ระหว่างวันที่ 9-11 กุมภาพันธ์

New Toyota Corolla Cross 2024 มีอะไรใหม่บ้างในแต่ละรุ่น !!!
สเปกใหม่ในทุกรุ่น
    - ใหม่! ไฟหน้า ดีไซน์ใหม่ แบบ LED Crystalized Headlamp
    - ใหม่! ไฟเลี้ยวด้านหน้าแบบ Sequential
    - ใหม่! หน้าจอสัมผัสขนาด 10.1 นิ้ว แบบ HD รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย
    - ใหม่! USB type C ใหม่! สัญญาณเตือนกะระยะ ด้านหน้า และด้านหลัง
    - ใหม่! ระบบเบรกมือไฟฟ้ า EPB และระบบหน่วงเบรกอัตโนมัติ ABH


รุ่น HEV GR-Sport
เครื่องยนต์ HEV 1.8 ลิตร กำลังสูงสุด 122 แรงม้า (PS) ประหยัดน้ำมันได้ถึง 23.3 กม./ลิตร (อ้างอิงจาก ECO Sticker)
ไฮไลท์สเปก
    - ใหม่! ไฟหน้า ดีไซน์ใหม่ แบบ LED Crystalized Headlamp
    - ใหม่! ไฟเลี้ยวด้านหน้า LED แบบ Sequential
    - ใหม่! Panoramic Roof แบบ Frameless พร้อมม่านบังแดดปรับไฟฟ้า
    - ใหม่! อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย Wireless charger
    - ใหม่! กล้องมองรอบคัน Panoramic View Monitor (PVM) 360° view
    - ใหม่! กล้องวิดีโอบันทึกภาพติดรถยนต์ ด้านหน้า และด้านหลัง
    - ใหม่! ระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB และระบบหน่วงเบรกอัตโนมัติ ABH
    - ใหม่! หน้าจอสัมผัสขนาด 10.1 นิ้ว แบบ HD รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย
    - ใหม่! จอแสดงผลข้อมูลผู้ขับขี่แบบ Full Digital ขนาด 12.3 นิ้ว
    - ใหม่! ไฟส่องสว่างภายในห้องโดยสารแบบ LED
    - ใหม่! USB type C
    - ใหม่! ระบบช่วยเตือนขณะจอดรถ พร้อมช่วยเบรกอัตโนมัติ PKSB
    - ใหม่! สัญญาณเตือนกะระยะ หน้า (4) หลัง (4) รวม 8 ตำแหน่ง

รุ่น HEV Premium Luxury
เครื่องยนต์ HEV 1.8 ลิตร กำลังสูงสุด 122 แรงม้า (PS) ประหยัดน้ำมันได้ถึง 23.3 กม./ลิตร (อ้างอิงจาก ECO Sticker)
ไฮไลท์สเปก
    - ใหม่! ไฟหน้า ดีไซน์ใหม่ แบบ LED Crystalized Head Lamp
    - ใหม่! ไฟเลี้ยวด้านหน้า LED แบบ Sequential
    - ใหม่! ไฟท้าย LED ดีไซน์ใหม่
    - ใหม่! กระจังหน้าและกันชนหน้าดีไซน์ใหม่
    - ใหม่! ล้ออัลลอยปัดเงาสีทูโทน 18 นิ้ว
    - ใหม่! Panoramic Roof แบบ Frameless พร้อมม่านบังแดดปรับไฟฟ้า
    - ใหม่! อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย Wireless charger
    - ใหม่! กล้องมองรอบคัน Panoramic View Monitor (PVM) 360° view
    - ใหม่! กล้องวิดีโอบันทึกภาพติดรถยนต์ ด้านหน้า และด้านหลัง
    - ใหม่! ระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB และระบบหน่วงเบรกอัตโนมัติ ABH
    - ใหม่! หน้าจอสัมผัสขนาด 10.1 นิ้ว แบบ HD รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย
    - ใหม่! จอแสดงผลข้อมูลผู้ขับขี่แบบ Full Digital ขนาด 12.3 นิ้ว
    - ใหม่! เบาะภายในสี Dark Rose *ตามสีภายนอก
    - ใหม่! ไฟส่องสว่างภายในห้องโดยสารแบบ LED
    - ใหม่! USB type C
    - ใหม่! ระบบช่วยเตือนขณะจอดรถ พร้อมช่วยเบรกอัตโนมัติ PKSB
    - ใหม่! สัญญาณเตือนกะระยะ หน้า (4) หลัง (4) รวม 8 ตำแหน่ง

    รุ่น HEV Premium
    เครื่องยนต์ HEV 1.8 ลิตร กำลังสูงสุด 122 แรงม้า (PS) ประหยัดน้ำมันได้ถึง 23.3 กม./ลิตร (อ้างอิงจาก ECO Sticker)
    ไฮไลท์สเปก
      - ใหม่! ไฟหน้า ดีไซน์ใหม่ แบบ LED Crystalized Head Lamp
      - ใหม่! ไฟเลี้ยวด้านหน้า LED แบบ Sequential
      - ใหม่! ไฟท้าย LED ดีไซน์ใหม่
      - ใหม่! กระจังหน้าและกันชนหน้าดีไซน์ใหม่
      - ใหม่! ล้ออัลลอยปัดเงาสีทูโทน 18 นิ้ว
      - ใหม่! ระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB และระบบหน่วงเบรกอัตโนมัติ ABH
      - ใหม่! หน้าจอสัมผัสขนาด 10.1 นิ้ว แบบ HD รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย
      - ใหม่! เบาะภายในสี Dark Rose *ตามสีภายนอก
      - ใหม่! ไฟส่องสว่างภายในห้องโดยสารแบบ LED
      - ใหม่! USB type C
      - ใหม่! ระบบความปลอดภัย TOYOTA SAFETY SENSE
      - ใหม่ สัญญาณเตือนกะระยะ หน้า (2) หลัง (4) รวม 6 ตำแหน่ง

    รุ่น 1.8 Sport Plus
    เครื่องยนต์ HEV 1.8 ลิตร กำลังสูงสุด 122 แรงม้า (PS)
    ไฮไลท์สเปก
      - ใหม่! ไฟหน้า ดีไซน์ใหม่ แบบ LED Crystalized Head Lamp
      - ใหม่! ไฟเลี้ยวด้านหน้า LED แบบ Sequential
      - ใหม่! ไฟท้าย LED ดีไซน์ใหม่
      - ใหม่! กระจังหน้าและกันชนหน้าดีไซน์ใหม่
      - ใหม่ กระจกมองข้างพร้อมระบบ Reverse Link
      - ใหม่! ระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB และระบบหน่วงเบรกอัตโนมัติ ABH
      - ใหม่! หน้าจอสัมผัสขนาด 10.1 นิ้ว แบบ HD รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย
      - ใหม่! จอแสดงผลข้อมูลผู้ขับขี่แบบ TFT ขนาด 7 นิ้ว
      - ใหม่! ไฟส่องสว่างภายในห้องโดยสารแบบ LED
      - ใหม่! ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง BSM และช่วยเตือนขณะถอยรถ RCTA
      - ใหม่! USB type C
      - ใหม่ สัญญาณเตือนกะระยะ หน้า (2) หลัง (4) รวม 6 ตำแหน่ง