All-new Toyota Alphard / Vellfire 2024 รถเอ็มพีวีโฉมใหม่ ถูกเปิดตัวอย่างเป็นทางการที่ประเทศญี่ปุ่น ปรับใหม่ในหลายส่วน ทั้งหรู และแรงขึ้น ขุมพลังที่ทั้งเบนซิน 2.5 ลิตร / เบนซินเทอร์โบ 2.4 ลิตร และไฮบริด 2.5 ลิตร ถือเป็นเจเนอเรชันที่ 4 โดยถูกพัฒนาขึ้นบนแพลตฟอร์ม GA-K ที่ใช้ร่วมกับรถหลาย ๆ รุ่นของทางโตfยต้า รวมทั้แบรนด์เลกซัสอย่างในรุ่น Lexus LM ราคาจำหน่ายของมินิแวนทั้ง 2 รุ่นในตลาดญี่ปุ่น Alphard อยู่ 1.3 – 2.1 ล้านบาท ส่วน Vellfire ระหว่าง 1.6 – 2.1 ล้านบาท สำหรับเมืองไทย โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย เตรียมนำเข้ามาเปิดตัวและทำตลาดในบ้านเราโดย ประมาณเดือน สิงหาคม 2023 นี้
📘 Toyota Alphard และ Vellfire ปี 2024 เปิดตัวอย่างเป็นทางการในญี่ปุ่น ถือเป็นรถยนต์รุ่นสำคัญที่ถูกจับตามองเป็นอย่างมากโดยเฉพาะในตลาดแถบเอเชีย เป็นรุ่นเปลี่ยนโฉม Full Modelchange (เจเนอเรชั่นที่ 4) มีการปรับปรุงในด้านแชสซี การขับขี่ ระบบส่งกำลัง สไตล์ และอุปกรณ์ต่างๆ เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน เพื่อให้ กลุ่มลูกค้าครอบครัว และผู้บริหาร นิยมชอบรถแบบนี้ เน้นความหรูหราสะดวกสบาย แต่ไม่ชอบขับรถ
All NEW Toyota Alphard และ Vellfire ถูกสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม TNGA (GA-K) นอกจากการใช้โครงสร้างที่ทนต่อแรงดึงสูงแล้ว ยังมีการใช้ชิ้นส่วนที่เรียกว่า straight rockers หรือคานค้ำบริเวณโครงสร้างด้านหน้า และ V-shaped brace ซึ่งเป็นคานค้ำรูปทรงตัว V เชื่อมระหว่างกึ่งกลางตัวรถและเสาหลังคา C-Pillar ช่วยลดการบิดตัวของโครงสร้างเพิ่มขึ้นถึง 50% เมื่อเทียบกับรุ่นที่แล้ว
📘 Alphard และ Vellfire ใหม่ แม้ตัวถังจะได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหมด แต่ยังคล้ายรุ่นเดิมบ้าง โปรไฟล์ที่ใช้ร่วมกันมีบังโคลนที่แกะสลักมากขึ้นและเส้นรูปตัว Z ใหม่ใต้หน้าต่างซึ่งเป็นจุดเด่นของเจนเนอเรชั่นใหม่ ที่ด้านหน้า กระจังหน้าขนาดใหญ่มีลวดลายอันเป็นเอกลักษณ์ที่บ่งบอกถึงความแตกต่างของฝาแฝด Alphard มีไฟ LED DRL ใต้ไฟหน้าหลักมากกว่า ขณะที่Vellfire ที่ ดูสปอร์ตกว่า มีช่องรับลมขนาดใหญ่กว่า ที่ด้านหลัง ความแตกต่างระหว่างทั้งสองจำกัดอยู่ที่กราฟิกไฟท้าย LED และส่วนล่างของกันชนหลังซึ่งโดดเด่นด้วยขอบที่เฉียบคม
Alphard และ Vellfire ยังคงรักษารูปแบบที่คล้ายคลึงกันกับรุ่นก่อน เพื่อให้เข้ากันได้กับข้อจำกัดด้านขนาดของระบบจอดรถอัตโนมัติ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง รถมินิแวนรุ่นใหม่มีความยาว 4,995 มม. (196.7 นิ้ว) กว้าง 1,850 มม. (72.8 นิ้ว) และสูง 1,945 มม. (76.6 นิ้ว) พร้อมฐานล้อกว้าง 3,000 มม. (118.1 นิ้ว )
การตกแต่งภายในเป็นแบบ 6 ที่นั่งแบบ 3 แถวซึ่งออกแบบมาเพื่อมอบ "ความสุขในการเคลื่อนไหวที่สะดวกสบาย" ในขณะที่หรูหรายิ่งขึ้นและเต็มไปด้วยคุณสมบัติเทคโนโลยีที่ทันสมัย แดชบอร์ดมีแผงหน้าปัดดิจิตอลขนาด 12.3 นิ้ว จอแสดงผลแบบสีและหน้าจอสัมผัสขนาด 14 นิ้วสำหรับระบบอินโฟเทนเมนท์ ไฟภายในห้องโดยสาร ตัวควบคุม และช่องแอร์ด้านหลังติดตั้งบนหลังคาถูกย้ายจากด้านข้างมาไว้ที่กึ่งกลางเพดาน ซึ่งโตโยต้าเรียกว่า “Super-Long Overhead Console”
📘 แม้จะมีขนาดใกล้เคียงกัน แต่พื้นที่วางขาก็เพิ่มขึ้นอีก 5 มม. (0.2 นิ้ว) ในแถวที่สองและ 10 มม. (0.4 นิ้ว) ในแถวที่สาม ที่นั่งทั้งหกได้รับการยกเครื่องใหม่ ในขณะที่แถวที่สองสามารถระบุได้ด้วยเก้าอี้พิเศษ ที่เป็นอุปกรณ์เสริม ซึ่งมีที่วางเท้าแบบปรับเอนได้ โต๊ะพับได้ ระบบควบคุมหน้าจอสัมผัส ระบบทำความร้อน/ระบายอากาศ ตลอดจนฟังก์ชันการนวดเพื่อความหรูหราและความสะดวกสบายเป็นพิเศษ เมื่อพูดถึงความสะดวกสบาย ผู้โดยสารแถวที่สอง สามารถปรับเอนพนักพิง ปิดม่าน และพักผ่อนระหว่างการเดินทางที่ยาวนานขึ้นได้ ปรับเอนและเลื่อนได้ด้วยสวิตช์ไฟฟ้า เมื่อเปิดพื้นห้องเก็บสัมภาระขึ้น จะพบกับชุดปะยางฉุกเฉินสำหรับรุ่น Hybrid และยางอะไหล่แบบชั่วคราวสำหรับรุ่นเครื่องยนต์สันดาปล้วน
รุ่นดังกล่าวมาพร้อมกับ “บันไดอเนกประสงค์” ซึ่งถอยกลับโดยอัตโนมัติทั้งสองด้าน ทำให้เด็กและผู้สูงอายุเข้าถึงห้องโดยสารได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังมีรุ่นที่ออกแบบมาสำหรับผู้พิการซึ่งมีเบาะนั่งแบบยกขึ้นพิเศษพร้อมกลไกการเอียงและที่วางเท้า อุปกรณ์รวมถึงชุด Toyota Safety Sense พร้อมระบบจอดรถระยะไกล บานฝาท้ายเป็นแบบเปิด – ปิดด้วยไฟฟ้า แต่เพื่อความปลอดภัยและความสะดวกสบาย สวิตช์ควบคุมจึงถูกย้ายตำแหน่งมาติดตั้งบริเวณมุมไฟท้ายฝั่งซ้าย เมื่อเปิดบานท้ายขึ้นก็จะพบกับพื้นที่เก็บสัมภาระขนาดใหญ่ตามสไตล์ MPV
📘 Alphard และ Vellfire รุ่นใหม่ของ Toyota ใช้สถาปัตยกรรม TNGA-K ซึ่งได้รับการ "ปรับให้เหมาะสมสำหรับการใช้งานรถมินิแวน" ด้วยแม็กเฟอร์สันสตรัทที่ด้านหน้าและระบบกันสะเทือนแบบปีกนกคู่ที่ได้รับการปรับปรุงที่ด้านหลัง วิศวกรของ Toyota เพิ่มคัน โยกตรงและค้ำยันรูปตัว V ที่ส่วนหลัง ทำให้มีความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้น 50% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า นอกจากนี้ Vellfire ยังได้รับ Front Performance Brace เพิ่มเติมและการปรับแต่งระบบกันสะเทือนที่เป็นเอกลักษณ์เพื่อแสดงให้เห็นถึงลักษณะที่สปอร์ตยิ่งขึ้น
การสั่นสะเทือนลดลง 30% เกิดขึ้นได้ด้วยกาวชนิดพิเศษ ในขณะที่มีการใส่ใจอย่างมากในการจำกัดเสียงจากพื้นถนนและเสียงลม โตโยต้าแนะนำว่าความสงบเงียบที่คุณรู้สึกได้เมื่ออยู่ใน Alphard/Vellfire นั้นเหมือนกับอยู่กลางป่า
เครื่องยนต์ 3.5 ลิตร V6 แบบเก่าหายไปแล้ว เนื่องจาก Alphard ระดับเริ่มต้นมาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.5 ลิตร ที่ให้กำลัง 180 แรงม้า (134 กิโลวัตต์ / 182 แรงม้า) ในขณะที่ Vellfire ได้รับเครื่องยนต์ 2.4 ลิตร 4 สูบ เทอร์โบชาร์จที่มีศักยภาพมากกว่า - เครื่องยนต์เบนซิน 275 แรงม้า (205 กิโลวัตต์ / 279 แรงม้า) ส่งกำลังไปที่ล้อหน้าหรือทั้งสี่ล้อผ่านเกียร์อัตโนมัติ CVT (2.5) หรือเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด (2.4 เทอร์โบ)
📘 All NEW Toyota Alphard / Vellfire มีขุมพลังให้เลือกด้วยกัน 3 รูปแบบ
เบนซิน 2.5 ลิตร (เฉพาะ Alphard)
เครื่องยนต์เบนซิน รหัส 2AR-FE 4 สูบ ขนาด 2.5 ลิตร 2,493 ซีซี. กำลังสูงสุด 182 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 235 นิวตันเมตร ที่ 4,100 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i ขับเคลื่อนล้อหน้า และ ขับเคลื่อน AWD 4 ล้อ ความจุถังน้ำมัน 75 ลิตร
เบนซิน 2.5 Hybrid (Alphard / Vellfire )
เครื่องยนต์เบนซิน รหัส A25A-FXS 4 สูบ ขนาด 2.5 ลิตร 2,487 ซีซี. พละกำลังสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิด 236 แรงม้า ที่ 4,300 - 4,500 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 5NM พละกำลัง 182 แรงม้า 270 นิวตันเมตร ในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ เพิ่มมอเตอร์ตัวหลัง 4NM พละกำลัง 54 แรงม้า 121 นิวตันเมตร เมื่อเครื่องยนต์ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า รวมพละกำลังสูงสุด 250 แรงม้า จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ e-CVT ขับเคลื่อนล้อหน้า และ ขับเคลื่อน 4 ล้อ e-FOUR ความจุถังน้ำมัน 75 ลิตร
เบนซิน 2.4 TURBO (เฉพาะ Vellfire)
เครื่องยนต์รหัส T24A-FTS เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.4 ลิตร 2,393 ซีซี. ฉีดจ่ายเชื้อเพลิงแบบ Direct-injection D4-ST พ่วงระบบอัดอากาศ Turbocharged กำลังสูงสุด 279 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 430 นิวตันเมตร ที่ 1,700 – 3,600 รอบ/นาที เกียร์อัตโนมัติ Direct-shift 8 จังหวะ จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Direct-shift 8 จังหวะ มีให้เลือกทั้ง ขับเคลื่อนล้อหน้า และ ขับเคลื่อน AWD 4 ล้อ ความจุถังน้ำมัน 75 ลิตร
📘 Toyota Alphard และ Vellfire ปี 2024 พร้อมให้สั่งซื้อแล้วในญี่ปุ่น ขึ้นอยู่กับรุ่น
🔻 All NEW Alphard ราคาอยู่ระหว่าง 5,400,000-8,720,000 เยน หรือประมาณ 1,390,000 – 2,140,000 บาท มีให้เลือก 6 รุ่นย่อย
- 2.5 Z CVT 2WD
- 2.5 Z CVT 4WD
- 2.5 Hybrid Z e-CVT 2WD
- 2.5 Hybrid Z e-CVT e-FOUR
- 2.5 Hybrid Executive Lounge e-CVT 2WD
- 2.5 Hybrid Executive Lounge e-CVT e-FOUR
🔻All NEW Vellfire ราคาอยู่ระหว่าง 6,550,000-8,920,000 เยน ประมาณ 1,670,000 – 2,188,000 บาท มีให้เลือก 6 รุ่นย่อย
- 2.4 Turbo Z Premier 8AT 2WD
- 2.4 Turbo Z Premier 8AT 4WD
- 2.5 Hybrid Z Premier e-CVT 2WD
- 2.5 Hybrid Z Premier e-CVT e-FOUR
- 2.5 Hybrid Executive Lounge e-CVT 2WD
- 2.5 Hybrid Executive Lounge e-CVT e-FOUR
📘 All NEW Toyota Alphard / Vellfire จะผลิตที่โรงงาน Inabe Plant, Toyota Auto Body Co., Ltd. ประเทศญี่ปุ่น ด้วยกำลังการผลิต 8,500 คัน/เดือน แบ่งเป็น Alphard 70% และ Vellfire 30% ราคาจำหน่ายของมินิแวนทั้ง 2 รุ่นในตลาดญี่ปุ่น All-new Alphard จะมีราคาอยู่ 1.3 – 2.1 ล้านบาท ส่วน All-new Vellfire จะมีราคาระหว่าง 1.6 – 2.1 ล้านบาท
สำหรับเมืองไทย โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย เตรียมนำเข้า Alphard และ Vellfire รุ่นใหม่ จะถูกนำมาเปิดตัวและทำตลาดในบ้านเราโดย ประมาณเดือน สิงหาคม 2023 นี้ ส่วนราคาจะเหมือนญี่ปุ่นหรือไม่ ต้องรอการประกาศอย่างเป็นทางการ
👉👉 Credit :: Carscoops
