Search
Close this search box.

New Nissan Navara 2024 เปิดตัวอย่างเป็นทางการพร้อมประกาศราคา

• ภายในดีไซน์ใหม่ คอนโซลหน้าแบบสปอร์ต เสริมความพรีเมียม สะดวกสบาย ด้วยฟังก์ชั่นที่เพิ่มเข้ามา
• เสาอากาศดีไซน์ใหม่แบบ Shark Fin
• แท่นเกียร์ดีไซน์ใหม่
• ขุมพลังทุกรุ่นมาพร้อมมาตรฐานไอเสียยูโร 5 เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น แต่ยังคงให้สมถรรนะและการตอบสนองทันใจทุกการขับขี่

เปิดตัวทั้ง 12 รุ่นย่อย

PRO-4X และ PRO-2X
o PRO-4X 4WD 7AT 1,175,000 บาท
o PRO-2X 2WD 7AT 1,045,000 บาท

Double Cab
o CALIBRE E 7AT BLACK EDITION 944,000 บาท
o CALIBRE E 7AT 909,000 บาท
o CALIBRE E 6MT 859,000 บาท

King Cab
o CALIBRE E 7AT BLACK EDITION 859,000 บาท
o CALIBRE E 7AT 825,000 บาท
o CALIBRE E 6MT 775,000 บาท
o E 6MT 699,000 บาท
o SL 6MT 659,000 บาท

Single Cab
o 4WD SL 6MT 669,000 บาท
o SL 6MT 605,000 บาท

ดีไซน์ภายนอก
ยังคงรักษาเอกลักษณ์ ด้วยดีไชน์ภายนอกที่ดูเข้ม เร้าใจ สะท้อนความแข็งแกร่ง ทนทาน สะกดทุก สายตา ตั้งแต่ด้านหน้าที่ดูดุดันแฝงความทันสมัย ตลอดไปจนเส้นสายของตัวถังด้านข้าง และด้านท้ายรถ ที่ดู คมเข้ม พร้อมประโยชน์ใช้สอย สื่อถึงจุดเด่นของนาวาราที่พร้อมลุยทุกเส้นทาง และในทุกสภาพการขับขี่ กระจังหน้าแบบอินเทอร์ล็อค ไฟหน้า Quad-Eye LED คุณภาพสูง พร้อมไฟ Daytime Running Light และ ไฟท้าย LED แบบ Guide light ที่โดดเด่นเห็นได้ชัดเจน ซุ้มล้อขนาดใหญ่สไตล์รถออฟโรตตอกย้ำความพร้อม ที่จะลุยในทุกสถานการณ์

ดีไซน์ภายนอกในแต่ละรุ่นย่อย แตกต่างกันไปตามบุคลิก

PRO-4X และ PRO-2X มาพร้อมกระจังหน้าสีดำสไตล์สปอร์ต ไฟหน้าแบบ Quad-Eye LED และไฟ DLR ล้ออัลลอยพร้อมยางแบบออลเทอเรน เสาอากาศดีไซน์ใหม่แบบ shark fin ที่ดูโฉบเฉี่ยวกว่าเดิมเพิ่มลุค ทันสมัย ตัวถังยกสูงช่วยให้ผู้ขับขี่ลุยได้ทุกเส้นทาง และพร้อมสำหรับทุกเส้นทาง

แบล็ค อิดิชั่น (Black Edition) มีในรุ่นนิสสันคาลิเบอร์ คิงแค็บ และดับเบิลแด็บ เพิ่มความเท่ด้วยล้ออัล ลอยขนาด 18 นิ้ว กระจังหน้าแบบอินเทอร์ล็อคสีดำ สติ๊กเกอร์ Black Edion และกระจกมองข้างสีดำเพิ่มลุค สปอร์ต

คาลิเบอร์ ทั้งตัวถังแบบคิงแค็บ และดับเบิ้ลแค็บ เพิ่มความสปอร์ตด้วยซุ้มล้อดูเท่ และบึกบึน ล้ออัลลอย ขนาด 17 นิ้ว และกระจังหน้าแบบอินเทอร์ล็อค ที่สะท้อนความอึด ทน เกาะถนน

คิงแค็บ ที่ยังคงโดดเด่นด้วยพื้นที่บรรทุกมาก ระบบช่วงล่างช่วยให้บรรทุกของได้มากขึ้นต่อการขน จึงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการต้นทุนการขนส่ง

นอกจากนี้ ยังเพิ่มทางเลือกให้ตกแต่งรถในสไตล์ของตนเองด้วยอุปกรณ์เสริม Utity Package ชุดใหญ่ กับคิ้วกันสาดประตู กันรอยมือเปิดประตูลายคาร์บอน ชุดคิ้วบันไดสเตนเลส ชุดพรมพร้อมยางปูพื้น

มีสีภายนอกให้เลือกแตกต่างกันไปในแต่ละรุ่น ตั้งแต่สีเทา Steal Gray, สีทองแดง Forged Copper, สีแดง Burning Red, สีดำ Black Star, สีเทา Twiligh Gray, สีเงิน Briliant Silver, สีขาว White Pearl และ สี Solid White

ภายในลุคใหม่
คอนโซลหน้าดีไซน์โมเดิร์น ทัชสกรีนขนาด 9 นิ้ว ในรุ่น PRO-4X และ PRO-2X เพิ่มความสปอร์ต พรีเมียม มาพร้อมวัสดุบุนุ่มคุณภาพสูงในหลายๆ จุด เช่น ที่พักแขน และคอนโซลหน้า ติดตั้งกระจกอคูสติ (AcousticGlass) ลดเสียงรบกวนจากภายนอกไม่ให้เข้ามารบกวนผู้ขับขี่และผู้โดยสาร

สำหรับในรุ่น PRO-Series มีเบาะนั่งปรับระบบไฟฟ้า 8 ทิศทาง เบาะเดินเส้นด้วยสีส้ม

ที่นั่งตอนหน้าแบบ Zero Graviy เริ่มตั้งแต่ในรุ่น คาลิเบอร์ ช่วยลดความเมื่อยล้าเมื่อขับทางไกล หุ้มเบาะด้วยวัสดุ Quole Modur* ที่สะท้อน และไม่สะสมความร้อนแม้ต้องเดินทางในระยะไกล ในรุ่นคาลิเบอร์และ PRO-Series ที่นั่งตอนหลังติดตั้งที่พักแขน และที่วางแก้วน้ำให้ความสะดวกสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง

ระบบแอร์อัตโนมัติพร้อมแยกระบบควบคุมอุณหภูมิในแต่ละที่นั่งสามารถปรับอุณหภูมิได้ตามต้องการ

ระบบอินโฟเทนเมนท์ NissanConnect สร้างความบันเทิง ด้วยการรองรับการเชื่อมต่อแบบไร้สายกับ WirelessApple CarPlay และเชื่อมต่อผ่านสาย USB สำหรับ Android Auto ช่วยให้สามารถใช้แอปพลิเคชันระบบนำทางผ่านระบบเครื่องเสียงอัจฉริยะได้สะดวกยิ่งขึ้น รองรับการสั่งงานด้วยเสียง จุดชาร์จไฟหลายรูปแบบทั้ง Type C และ Type A เพื่อให้สามารถเชื่อมต่อ และสื่อสารได้อย่างไม่ขาดตอนขณะกำลังเดินทาง มีช่องเก็บของหลายจุด ให้จัดเก็บของได้อย่างสะดวก หยิบใช้งานได้ง่าย มาพร้อมกุญแจอัจจริยะ ที่ใช้งานและควบคุมได้ง่าย
*การตกแต่งภายในแตกต่างกันในแต่ละรุ่น
*ขึ้นอยู่กับระบบสมาร์ทโฟนที่รองรับ

เครื่องยนต์และสมรรถนะ มาตรฐานไอเสียยูโร 5
นิสสัน นาวารา รุ่นปี 2024 เครื่องยนต์ใหม่ รหัส YS23DDTT ความจุ 2.3 ลิตร 4 สูบ แบบทวินเทอร์โบ ได้มาตรฐานยูโร 5 (EURO V) ที่มีการปล่อยไอเสียต่ำ ที่ยังคงให้การตอบนองเร็ว ประหยัดน้ำมันเช่นเดียวกับนิสสัน นาวารา รุ่นก่อนหน้า ฟิลเตอร์ Diesel Particulate Filter (DPF) ช่วยกรองละอองเขม่า เมื่อไฟ DPF โชว์ที่หน้าจอ ผู้ขับขี่สามารถกดปุ่มให้ฟิลเตอร์ DPF ทำงาน เพื่อลดปริมาณเขม่าควันลง

เครื่องยนต์รุ่นนี้ยังคงให้พลังสุด 190 แรงม้า (Ps) และแรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร มาพร้อมเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด ที่สามารถเปลี่ยนไปเป็นโหมดแมนนวล (M Mode) ควบคุมได้ตามใจ รวมทั้งยังประหยัดเชื้อเพลิง และรองรับน้ำมันดีเซลทุกประเภท (B7, B10, และ B20)

สำหรับรุ่นคิงแค็บ รุ่นคาลิเบอร์ และ รุ่นดับเบิ้ลแค็บ ติดตั้งระบบเกียร์ 6 สปีดแบบแมนนวล มาพร้อมเครื่องยนต์ DOHC VGS เทอร์โบ 2.3 ลิตร 4 สูบ ใหม่ รหัส YS23DDT ให้พลังสูงสุด 160 Hp และแรงบิด 403 นิวตันเมตร

เทคโนโลยีขับเคลื่อน 4 ล้อ ในรุ่น PRO-4X ติดตั้งเทคโนโลยีที่เพิ่มความมั่นคงในการยึดเกาะถนน และควบคุมได้ด้วยเทคโนโลยี Brake-Limited Slip Differental (B-LSD) ระบบ Shift-On-The-Fly 4-Wheel Drive & ILO สามารถเปลี่ยนโหมดระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ เป็น 4 ล้อได้เมื่อขับขี่ด้วยความเร็วต่ำกว่า 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

บรรทุกหนักได้อย่างน่าประทับใจ
การบรรทุกหนักด้วยโครงสร้างแชสซีทำจาจากเหล็กกล้า มีพื้นที่บรรทุกของได้อย่างจุใจ ให้ประโยชน์การใช้งาน และความสะดวก เช่น บันไดที่กันชนหลังซึ่งช่วยให้เข้าออก และขนของที่กระบะได้สะดวก รวมถึงการปรับตำแหน่งตะขอยึดใหม่ เพื่อตอบโจทย์การบรรทุกสัมภาระทั้งขนาดใหญ่ และเล็ก

ระบบความปลอดภัยรอบคัน 360* Safety Shield
• ล้องรอบทิศทาง Intelligent Around View Monitor (IAVM) ที่มีกล้อง 4 ตัวที่แสดงภาพได้แบบเรียลไทม์ และมุมสูง ดูได้จากขอ 9 นิ้ว (สำหรับรุ่น PRO) ที่ทำงานร่วมกับเทคโนโลยี Moving Object Detection (MOD) ที่ตรวจจับวัตถุรอบตัวรถในช่วงความเร็วไม่เกิน 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หากตรวจพบวัตถุที่กำลังเคลื่อนที่ ระบบจะส่งสัญญาณเสียงและภาพเพื่อเตือนผู้ขับขี่ทันที รวมทั้งยังสั่งให้ระบบออฟโรด และระบบชับเคลื่อนทุกล้อทำงาน นอกจากนี้ยังมี Parking Sonar พร้อมเซ็นเซอร์ที่กันชนหน้าและหลังที่ส่งสัญญาณเตือนเมื่อพบวัตถุเคลื่อนไหวขณะที่กำลังจอด
• เทคโนโลยีเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนอัจฉริยะ (Intelligent Forward Collion Warning - IFCW) ที่จะส่งสัญญาณเสียงพร้อมสัญลักษณ์เตือนบนหน้าปัด หากพบความเสียงที่จะเกิดอุบัติเหตุจากการชนด้านหน้า
• เทคโนโลยีช่วยเบรกฉุกเฉินอัจฉริยะ (Intelligent Emergency Braking - IEB) จะช่วยวิเคราะห์ความเร็วและระยะห่างจากคันหน้า พร้อมทั้งช่วยลดดความเร็วและเบรกเพื่อลดความรุนแรงที่จะเกิดอุบัติเหตุ
• เทคโนโลยีเตือนจุดอับสายตา (Bind Spot Warning - BSW) จะส่งเสียงสัญญาณพร้อมไฟกระพริบที่ กระจกมองข้างเตือนให้รู้ว่าขณะนั้นกำลังมีรถคันอื่นอยู่ในช่องทางขับขี่ด้านข้างซึ่งผู้ขับขี่ไม่สามารถมองเห็น
• เทคโนโลยีป้องกันการชนจากจุดอับสายตาอัจฉริยะ (Intelligent Blind Spot Intervention – IBSI) จะส่งแรงเบรกดึงรถกลับสู่ช่องทางอย่างนุ่มนวล การถอยรถอออกจากช่องจอด เป็นอีกจุดหนึ่งที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ
• เทคโนโลยีตรวจจับวัตถุด้านหลังรถขณะถอย (Rear Cross Traffic Ale- RCTA) จะส่งสัญญาณเตือนพร้อมกระพริบเตือน หากตรวจพบรถที่กำลังเคลื่อนเข้ามาทางด้านหลังทั้งซ้ายและขวา สัญญานเตือนพร้อมไฟกระพริบที่กระจกมองข้างด้านเดียวกันกับที่มีรถกำลังเคลื่อนมา
• เทคโนโลยีเตือนเมื่อรถออกนอกช่องทาง (Lane Departure Warning: LDW) จะเตือนผู้ขับขี่หากระบบจับทิศทางได้ว่ารถกำลังเบี่ยงออกนอกช่องทางโดยไม่ได้เปิดสัญญาณไฟเลี้ยว และหากรถยังคงออกนอกเส้นทาง
• เทคโนโลยีช่วยควบคุมรถเมื่อออกนอกช่องทางอัจฉริยะ (Inteligent Lane Intervention - ILl) จะทำงานโดยส่งสัญญาณให้ระบบเบรกทำงานและส่งแรงเบรกเพื่อดึงรถกลับสู่ช่องทางให้ผู้ขับรู้ตัว
• เทคโนโลยีเตือนเมื่อเหนื่อยล้าขณะขับขี่หรือ Inteligent Driver Alertness (IDA) หากเหนื่อยล้าจน รูปแบบการขับขี่เปลี่ยนไปโดยไม่ตั้งใจ ระบบจะส่งสัญญาณเสียงและสัญลักษณ์ให้ผู้ขับทราบ

เทคโนโลยีเสริมความปลอดภัย
• ถุงลมนิรภัย 7 จุด ปกป้องด้านด้านหน้า ด้านข้าง ม่านลมนิรภัย และเข่า เพื่อลดความรุนแรงที่อาจเกิดจากการกระแทกเมื่อเกิดการชน พร้อมเข็มขัดนิรภัยแบบ Pretensioner and Load Limiter (ELR) ที่จะปรับตามขนาดตัวของผู้โดยสารแต่ละราย
• เทคโนโลยีระบบป้องกันการลื่นไกล (4-Wheel Active Brake Limited Slip) ระบบจะส่งแรงเบรกไปยังล้อที่ลื่นไถลกันที่ ให้คุณควบคุมทิศทางรถได้ ทุกสภาพถนน หลบหลีกได้ทันท่วงที
• เทคโนโลยีควบคุมเสถียรภาพขณะเข้าโค้ง (Traction Control-TCS) เทคโนโลยีป้องกันล้อหมุนฟรี(Intelligent Stabilty Control System) และ เทคโนโลยีควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวอัตโนมัติ (Vehicle Control -VDC) ช่วยป้องกันไม่ให้ล้อหมุนฟรีเมื่อขับขี่บนพื้นผิวถนนที่ลื่น พร้อมทั้งช่วยปรับการทรงตัวของรถในกรณีที่ควบคุมยาก
• ช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (Hill Start Assist) และทางลาดชั้น (Hill Descent Cotrol – HDC) ช่วยให้การขับขี่บนเส้นทางที่ลาดชัน ขึ้นเขา หรือเส้นทางออฟโรดได้อย่างมั่นใจและอุ่นใจ โดยระบบจะทำงานเมื่อเหยียบเบรกค้างไว้ และไม่ดึงเบรกมือเพื่อหยุดรถบนเส้นทางที่มีความลาดชาน เมื่อยกเท้าออกจากแป้นเบรก ระบบจะหยุดรถชัวขณะ เพื่อให้การออกตัวง่ายขึ้น และลดความเร็วเมื่อลงเนิน โดยที่ผู้ขับขี่ไม่ต้องเหยียบเบรก
• เทคโนโลยีป้องกันล้อล็อค (ABS) และกระจายแรงเบรก (Electric Brake Force Distribution System - EBD) เทคโนโลยีป้องกันการลื่นไถล (Brake Limited Slip Differential- B-LSD) รวมทั้งมีเบรก LEDรวมทั้งมีไฟเบรก LED จุดที่สามเพื่อเพิ่มความปลอดภัย มองเห็นได้ชัดเจนในระยะไกล