Search
Close this search box.

MG4 EV รถยนต์ไฟฟ้า 100% เปิดตัวในยุโรป ราคาเริ่มต้น 1.1 ล้าน วิ่งไกล 450กม. คาดเข้าไทยปลายปี 

🚗🚗 MG Motor Europe เปิดตัว MG4 EV รถยนต์ไฟฟ้า 100% ราคาเริ่มต้น 1.1 ล้านบาท ชาร์จไฟเต็ม 1 ครั้ง วิ่งไกลถึง 450 กม. มีให้เลือก 3 รุ่นย่อย Standard, Comfort และ Luxury คาดเข้าไทยปลายปี ในประเทศจีน ใช้ชื่อว่า MG Mulan

🚘🚘 MG 4 EV เป็นรถ Hatchback 5 ประตูขนาดกลาง รถยนต์ไฟฟ้า 100% เผยโฉมครั้งแรกเมื่อเดือน มิถุนายน 2022 ในประเทศจีน ใช้ชื่อว่า MG Mulan แต่ในยุโรปใช้ชื่อว่า MG 4 EV ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 100% ชาร์จไฟเต็ม 1 ครั้ง วิ่งไกลถึง 450 กม. ถูกพัฒนาขึ้นบนแพล็ตฟอร์ม MSP (Modular Scalable Platform) ที่พัฒนาโดยเครือ SAIC Motor ซึ่งเอ็มจีระบุว่า จะมอบประสิทธิภาพการขับขี่ด้วยไฟฟ้าที่น่าประทับใจ, การขับขี่ที่ยอดเยี่ยม และระบบช่วยเหลือการขับขี่อันล้ำสมัย ในตลาดยุโรปมีให้เลือก 3 รุ่นย่อย ได้แก่ Standard, Comfort และ Luxury
▶️▶️ MG 4 EV จัดอยู่ในพิกัด C-Segment Hatchback ซึ่งมีความยาวใกล้เคียงกับ ORA Good Cat จาก Great Wall Motors แต่มีขนาดใหญ่กว่า BYD Dolphin เล็กน้อย ล่าสุด MG ในยุโรป และ อังกฤษ มีการเปิดตัว มีให้เลือก 3 รุ่นย่อย เคาะราคาจำหน่ายเริ่มที่ 💥💥 25,995 – 31,495 ปอนด์ หรือประมาณ 1.1 – 1.3 ล้านบาท 💥💥 แล้ว ส่วนประเทศไทย MG 4 EV เตรียมลุ้นมาโชว์ตัวปลายปี 2022 นี้ คาดจะเปิดราคา และเริ่มส่งมอบ ต้นปี 2023 เป็นต้นไป

🔻🔻 สำหรับราคาจำหน่าย MG4 EV บนเกาะอังกฤษ ดังนี้ 🔻🔻
👉👉 รุ่น SE Standard Range ราคา 25,995 ปอนด์สเตอร์ลิง 📌📌 ประมาณ 1.1 ล้านบาท
👉👉 รุ่น SE Long Range ราคา 28,495 ปอนด์สเตอร์ลิง 📌📌 ประมาณ 1.2 ล้านบาท
👉👉 รุ่น Trophy ราคา 31,495 ปอนด์สเตอร์ลิง 📌📌 ประมาณ 1.3 ล้านบาท
( ราคาดังกล่าวยังไม่รวมภาษีนำเข้าจากไทย )

⚙️⚙️ ตลาดยุโรปมีให้เลือก 3 รุ่นย่อย ได้แก่ Standard, Comfort หรือ Long Range และ Luxury หรือ Trophy เริ่มต้นที่รุ่น Standard ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 170 แรงม้า (125 kW) แรงบิดสูงสุด 250 นิวตัน-เมตร ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 7.7 วินาที จำกัดความเร็วสูงสุดไว้ที่ 160 กม./ชม. พร้อมแบตเตอรี่ Lithium iron phosphate ความจุ 51 kWh สามารถขับขี่ได้เป็นระยะทางราว 350 กิโลเมตรต่อการชาร์จแต่ละครั้ง (ตามมาตรฐานการทดสอบ WLTP) รองรับการชาร์จด่วน (DC) ด้วยกำลังไฟสูงสุด 117 kW สามารถชาร์จจาก 10-80% ในเวลา 40 นาที
⏩⏩ ส่วนรุ่น Comfort และ Luxury ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 204 แรงม้า ให้แรงบิดเท่ากันอยู่ที่ 250 นิวตัน-เมตร แต่มีอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ช้ากว่ารุ่น Standard เล็กน้อยอยู่ที่ 7.9 วินาที และถูกจำกัดความเร็วไว้ที่ 160 กม./ชม. เช่นเดียวกัน ขณะที่แบตเตอรี่มีขนาดใหญ่ขึ้นเป็น 64 kWh สามารถขับขี่ได้เป็นระยะทางไกลสุด 450 กิโลเมตร ในรุ่น Comfort (และ 435 กิโลเมตรในรุ่น Luxury) รองรับการชาร์จด่วนด้วยกำลังไฟสูงสุด 135 kW ช่วยลดระยะเวลาชาร์จไฟจาก 10-80% เหลือราว 35 นาที หรือชาร์จเป็นเวลา 32 นาที เพื่อให้ได้ระยะทางขับขี่ประมาณ 300 กิโลเมตร

🚔🚔 รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นนี้ถูกออกแบบโดย SAIC Motor Design Center ในกรุงเซี่ยงไฮ้ร่วมกับ Advanced Design Studio ในกรุงลอนดอน และ Royal College of Art ในประเทศอังกฤษเช่นเดียวกัน ตัวถังมีความยาว 4,287 มม. ความกว้าง 1,836 มม. ความสูง 1,504 มม. และความยาวฐานล้อ 2,705 มม. พร้อมห้องโดยสารรองรับได้ 5 ที่นั่ง และมีพื้นที่เก็บสัมภาระท้ายขนาด 350 ลิตร หรือขยายเป็น 1,165 ลิตรเมื่อพับเบาะหลังลง
⏩⏩ ขณะที่ชุดไฟหน้าประกอบด้วยหลอด LED ขนาดเล็กจำนวน 28 หลอด และแถบไฟเบอร์ออปติกแนวตั้งจำนวน 6 แถบ ทำงานคู่กับไฟเลี้ยวแบบ LED ที่แยกติดตั้งไว้บริเวณกันชน ขณะที่ไฟท้ายประกอบไปด้วยหลอด LED จำนวนถึง 172 หลอด เพื่อเพิ่มความโดดเด่นบนท้องถนนยามค่ำคืน เสริมความสะดุดตาด้วยสปอยเลอร์หลังคาแบบ Dual-wing และล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้วเป็นมาตรฐาน

📺📺 ภายในห้องโดยสารชูจุดเด่นด้วยหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ขนาด 7 นิ้ว และหน้าจออินโฟเทนเมนท์ขนาด 10.25 นิ้ว ทำงานคู่กับระบบเชื่อมต่อ MG iSMART พร้อมรองรับ Apple CarPlay และ Android Auto นอกจากนี้ แบตเตอรี่ของ MG4 Electric ยังสามารถจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าภายนอก (Vehicle-to-load) เช่น จักรยานไฟฟ้า, สมาร์ทโฟน และคอมพิวเตอร์ผ่านสายอะแดปเตอร์ได้
⏩⏩ MG4 Electric ถูกติดตั้งระบบช่วยเหลือการขับขี่ MG Pilot ที่ประกอบด้วยระบบเตือนการชนด้านหน้า (FCW), ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (AEB), ระบบควบคุมความเร็วแปรผันอัตโนมัติตามคันหน้า (ACC), ระบบช่วยขับขี่ขณะรถติด (TJA), ระบบเตือนรถออกนอกเลน (LDW) และระบบช่วยประคองรถให้อยู่ในเลน (LKA) เสริมด้วยระบบควบคุมไฟสูงอัจฉริยะ (IHC - Intelligent Headlamp Control), ระบบช่วยควบคุมความเร็ว (SAS - Speed Assist System), ระบบเตือนการเปิดประตู (DOW - Door Opening Warning) และระบบเตือนการขับขี่ไม่มั่นคง (UDW - Unsteady Driving Warning) ทำงานผ่านกล้องที่อยู่ภายในห้องโดยสาร เป็นต้น

🚘🚘 สีตัวถังของ MG 4 EV เวอร์ชั่นอังกฤษ มีให้เลือก 6 สี
🌈 สีขาว Arctic White
🌈 สีน้ำเงิน Holborn Blue
🌈 สีดำ Black Pearl
🌈 สีเทา Camden Grey
🌈 สีแดง Dynamic Red
🌈 สีส้ม Volcano Orange

📢📢 สำหรับตลาดในเมืองไทยนั้น มีความเป็นไปได้สูงที่ ทางค่าย MG จะนำ MG4 EV รถยนต์ไฟฟ้าตัวใหม่นี้ เข้ามาทำตลาดในเมืองไทย เพราะหลายๆรุ่น ที่วางจำหน่ายในเกาะอังกฤษแล้ว ทาง SAIC จะทยอยส่งเข้ามาทำตลาดในเมืองไทยด้วย สำหรับราคา เมื่อเทียบ MG 4 EV กับตัว MG ZS EV จากราคาจำหน่ายในเกาะอังกฤษแล้ว ตัว MG 4 EV จะมีค่าตัวถูกประมาณ 150,000 บาท เมื่อนำเข้าไทยราคาก็น่าจะถูกกว่าด้วย
➡️➡️ ส่วนนำเข้ามาเหมือนไหร่นั้น คาดว่าจะมีการนำมาโชว์ตัวในงานใหญ่ ช่วงปลายปีนี้ค่อนข้างแน่ ต่อจากนั้น ช่วงต้นปี น่าจะมีการประกาศราคาอย่างเป็นทารการ และเริ่มส่งมอบรถในช่วงไตรมาสแรกของปีหน้า คงอีกไม่นานเกินรอน่ะครับ ... 🤫🤫
…………………………………………………………………
MG Motor Europe เปิดตัว MG4 Electric ที่ยุโรป กด Link 📩📩 ดูที่นี่ ...