Search
Close this search box.

Mercedes-Benz ลุยรถ EV ลั่น 5 ปี ขายรถไฟฟ้า 100% พร้อมเปิดตัว EQB 250 AMG Line SUV ไฟฟ้า 3.02 ล้าน

Mercedes-Benz เผยยอดขายทั่วโลกแตะ 2 ล้านคัน โชว์ตัวเลขรถพลังงานไฟฟ้า 100% แบรนด์ Mercedes-EQ โตขึ้น 124% เอสยูวีรุ่น EQA และ EQB มาแรงในตลาดโลก ประกาศเป็นผู้นำในไทยด้วยวิสัยทัศน์ “Ambition to Lead” ตลอดปี 2566 วางเป้าหมายระดับโลก เป็นองค์กรที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอน ภายในปี 2582 ตั้งเป้าหมายทำให้รถทุกรุ่นที่อยู่ในพอร์ต เป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ภายในปี 2572 ไฮไลท์สำคัญปีนี้ เปิดตัวรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ภายใต้แบรนด์ Mercedes-EQ ลงตลาดประเทศไทยทั้งหมด 3 รุ่น ประเดิมรุ่นแรกด้วยเอสยูวีไฟฟ้า EQB 250 AMG Line เปิดราคา 3,020,000 บาท

📕 มร. มาร์ทิน ชเวงค์ ประธานบริหารคนใหม่ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย แถลงผลการดำเนินงานในปี 2565 พร้อมแสดงวิสัยทัศน์และแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2566 โดยในระดับโลก ว่า เมอร์เซเดส-เบนซ์ มีอัตราการเติบโตของยอดขายกว่า 15% จากปีที่ผ่านมา กวาดยอดขายรถในกลุ่ม Passenger Cars กว่า 2,043,900 คันทั่วโลก พร้อมโชว์ตัวเลขการเติบโตของรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ภายใต้แบรนด์ Mercedes-EQ ที่สูงถึง 124% ด้วยยอดขายกว่า 117,800 คัน โดยมีรุ่นที่ขายดีเป็นอันดับต้นๆ อย่าง EQA และ EQB
ในด้านของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย เติบโตถึง 34% ด้วยยอดจดทะเบียนสะสม 13,182 คัน ในปีที่ผ่านมา ยอดขายรถในเซกเมนต์ Dream Cars โตขึ้น 28% จากยอดขาย CLS และ C-Coupe ยอดขายรถ SUV เติบโตอย่างต่อเนื่อง ส่วนรถเซกเมนต์ Contemporary Luxury อย่าง The new C-Class E-Class และ S-Class โตขึ้น 12% ตามด้วยรถ Top-end Luxury อย่าง Mercedes-Maybach ตัวเลขยอดขายโตขึ้นกว่า 3 เท่าจากปีที่ผ่านมา

📕 ในปีนี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย จะเดินหน้าด้วยวิสัยทัศน์ “Ambition to Lead” ที่สะท้อนผ่านแผนการดำเนินธุรกิจในทุกมิติ ในเรื่องของความยั่งยืน (Sustainability) สู่การเป็นองค์กรที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2582 ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายความยั่งยืนของประเทศไทย
รวมถึงนโยบาย 30@30 ของบอร์ดอีวี ที่จะขยายสัดส่วนของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในประเทศให้เป็น 30% ภายในปี 2572 ทางเมอร์เซเดส-เบนซ์เองก็ตั้งเป้าหมายในการทำให้รถทุกรุ่นที่อยู่ในพอร์ตของเรา เป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ภายในปี 2572 เช่นกัน
สิ่งสำคัญที่บรรลุเป้าหมายความยั่งยืน คือการนำเสนอรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้า (Electrification) ให้กับผู้บริโภค ในระดับโลก เราได้นำเสนอ VISION EQXX รถยนต์ต้นแบบพลังงานไฟฟ้า 100% ที่ผ่านการทดสอบการขับขี่ในสภาพแวดล้อมจริง ด้วยระยะทางมากกว่า 1,000 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเต็มเพียงหนึ่งครั้ง
ในประเทศไทย มีการเปิดตัว EQS 500 4MATIC AMG Premium ที่ถือเป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ที่มีระยะทางการขับขี่ด้วยไฟฟ้ามากที่สุดในประเทศไทย ด้วยระยะทางกว่า 702 กิโลเมตร ต่อจากชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง ตามมาตรฐาน WLTP นอกจากนี้ เรายังได้เปิดตัวยนตกรรมในรูปแบบปลั๊กอินไฮบริด อย่าง C 350 e AMG Dynamic ที่เป็นรถ PHEV ในระดับลักชัวรี่ ที่วิ่งได้ไกลที่สุดในประเทศไทย ด้วยระยะทางเกินกว่า 100 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง

📕 ไฮไลท์สำคัญของปีนี้ คือการเปิดตัวรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ภายใต้แบรนด์ Mercedes-EQ ลงตลาดประเทศไทยทั้งหมด 3 รุ่น เริ่มด้วย EQB 250 AMG Line รถเอสยูวีไฟฟ้า 5 ที่นั่ง ที่ผสานความหรูหราและความสะดวกสบายในทุกมิติ ตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลาย พร้อมเดินทางในทุกเส้นทางด้วยการขับขี่ที่ไร้มลพิษ (Zero-emission) ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้าพร้อมแบตเตอรี่แรงดันสูง วิ่งได้ไกลถึง 460 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน WLTP ผลิตและนำเข้าแบบ CBU พร้อมเปิดราคาจำหน่ายที่ 3,020,000 บาท
รวมถึงการสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าผ่านการร่วมมือกับผู้ผลิต และผู้ให้บริการด้านสถานีชาร์จพลังงานไฟฟ้าชั้นนำ ในประเทศไทย

📕 EQB 250 AMG Line ยนตรกรรมพลังงานไฟฟ้า 100% ภายใต้แบรนด์ Mercedes-EQ รุ่นล่าสุด ที่ผลิต และนำเข้า (CBU) มาวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทย มาพร้อมรูปแบบตัวถังแบบ รถเอสยูวีที่ใช้แพลตฟอร์มเดียวกันกับ GLB โดย EQB ใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหน้า (FWD) ด้วยขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ PSM (Permanently Excited Synchronous Motor) ที่ให้พลังสูงสุด 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 385 นิวตันเมตร สามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในระยะเวลา 8.9 วินาที
ในด้านของแหล่งพลังงาน รถยนต์คันนี้ใช้แบตเตอรี่ Lithium-ion แบบแรงดันสูง (High-Voltage) มีความจุแบตเตอรี่ 66.5 kWh สามารถวิ่งได้ไกลสูงสุด 460 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง ตามมาตรฐาน WLTP สำหรับการชาร์จไฟฟ้า EQB รองรับการชาร์จกระแสตรง DC สูงสุด 100 kW
ใช้เวลาชาร์จจาก 10-80% เพียง 32 นาที และรองรับการชาร์จกระแสสลับ AC สูงสุด 11 kW ใช้เวลาชาร์จจาก 0-100% ในระยะเวลา 6 ชั่วโมง 50 นาที โดยมาพร้อม Mercedes-Benz Wallbox Home รุ่น 2.0 ที่มาพร้อมระบบป้องกันฝุ่นกันน้ำ ตามมาตรฐาน IP55/IK10 นอกจากนี้ยั งสามารถควบคุมการชาร์จไฟฟ้าและอัปเดตซอฟต์แวร์ได้แบบ OTA (over-the-air) ผ่านแอปพลิเคชัน Mercedes me

📕 มิติตัวถังขนาดใหญ่ด้วยความยาว 4,687 มม. ความกว้าง 2,020 มม. ความสูง 1,667 มม. และระยะฐานล้ออยู่ที่ 2,829 มม. โดยในด้านของการออกแบบภายนอก EQB มีการตกแต่งรอบคันแบบ AMG bodystylingมาพร้อมกระจังหน้าแบบ Radiator grille พร้อมแถบคาดกระจังหน้าโครเมี่ยมแบบ Twin blade ที่ดีไซน์รับกับโลโก้ดาวสามแฉกของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ได้อย่างลงตัว ต่อเนื่องด้วยโคมไฟหน้าความละเอียดสูงแบบ LED High Performance ตกแต่งเส้นสายไฮไลท์สีฟ้าแสดงถึงการเป็นรถในตระกูล
Mercedes-EQ และมีการติดตั้งระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Adaptive Highbeam Assist) พร้อมติดตั้ง ราวหลังคาอลูมิเนียมในสไตล์ของรถเอนกประสงค์ และล้ออัลลอยด์ดีไซน์สปอร์ตจาก AMG แบบ Multi-spoke ขนาด 20 นิ้ว

📕 ในด้านการออกแบบภายใน EQB 250 AMG Line มาพร้อมนวัตกรรมและความสะดวกสบายอย่างไร้ที่ติ สะท้อนความหรูหราและความสปอร์ตทั่วทั้งห้องโดยสารด้วยการดีไซน์แบบ AMG ตั้งแต่คอนโซลหน้าที่ตกแต่งแบบ Aluminium-look ไปจนถึงเบาะหนังสไตล์ AMG ที่หุ้มด้วยหนัง ARTICO ตัดสลับกับ MICROCUT microfibre สีดำ
พร้อมพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นหุ้มหนัง Nappa และแป้นควบคุมการคืนพลังงานไฟฟ้า (Regenerate) แบบ Paddle shift ที่ทำจากวัสดุ Galvanished steel ในด้านของฟังก์ชั่นการใช้งานและความบันเทิง EQB มีระบบการแสดงผลและระบบควบคุมฟังก์ชั่นการใช้งานด้วยหน้าจอแสดงผลความละเอียดสูงแบบ All-digital instrument display ขนาด 10.25 นิ้ว และหน้าจอแสดงผลบริเวณคอนโซลกลางขนาด 10.25 นิ้ว โดยมีการติดตั้งระบบอินโฟเทนเมนต์ ที่เป็นองค์ประกอบสำคัญของรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ อย่างระบบ MBUX6 ที่สามารถควบคุมฟังก์ชั่นการทำงานภายในรถได้อย่างง่ายดาย โดยมีความจุสัมภาระสูงสุด 1,710 ลิตร

📕 เบาะผู้ขับขี่และผู้โดยสารตอนหน้า ระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติแยก 2 โซนแบบ THERMOTRONIC พร้อมการควบคุมระบบปรับอากาศผ่านสมาร์ทโฟน ระบบไฟ Ambient Light 64 เฉดสี ที่สร้างบรรยากาศให้กับห้องโดยสาร หลังคาพาโนรามิคซันรูฟ เลื่อนเปิด - ปิดได้ด้วยระบบไฟฟ้า (Electric Panoramic sliding roof) ระบบเปิด – ปิดฝากระโปรงท้ายอัตโนมัติ โดยไม่ต้องใช้มือ (HANDS-FREE ACCESS) ระบบการเชื่อมต่อแบบ Smart Phone Integration ที่รองรับทั้งระบบ Apple CarPlayTM และ Android Auto รวมถึงการติดตั้งระบบชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย (Wireless charging system) สำหรับที่นั่งด้านหน้า
EQB 250 AMG Line ติดตั้งระบบความปลอดภัยมากมาย นอกจากระบบความปลอดภัยมาตรฐานต่างๆ ของเมอร์เซเดส-เบนซ์แล้ว EQB ยังได้เสริมระบบความปลอดภัยขั้นสูง ไม่ว่าจะเป็น ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตา (Blind Spot Assist) ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติ (Active Brake Assist) ระบบช่วยการนำรถเข้าจอดอัตโนมัติ พร้อมกล้องแสดงภาพด้านหลังขณะถอยจอด (Parking Package with reversing camera) ระบบรักษาระดับความเร็ว (CRUISE CONTROL) ระบบดูดซับแรงสั่นสะเทือน (Adjustable damping) ระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (ATTENTION ASSIST) ระบบแจ้งเตือนยานพาหนะขณะเปิดประตูรถ