Search
Close this search box.

Toyota เปิดตัว Innova Zenix Hybrid ที่อินโดนีเซีย มินิ MPV ไฮบริด 2.0ลิตร ขับเคลื่อนล้อหน้า ราคาเฉียดล้าน

Toyota Indonesia เปิดตัว Innova Zenix Hybrid ใหม่ ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ไฮบริด 2.0 ลิตร กำลังสูงสุด 186 แรงม้าทุกรุ่นย่อย ยังคงมีเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร กำลังสูงสุด 174 แรงม้า ปรับดีไซน์เน้นความบึกบึนสไตล์ครอสโอเวอร์ เพิ่มอุปกรณ์เช่นเดียวกับรถระดับหรู รุ่นไฮบริด 5 รุ่นย่อย ราคาประมาณ 1,060,000 - 1,410,000 บาท ส่วนรุ่นเบนซิน 2 รุ่นย่อยประมาณ 970,000 - 1,080,000 บาท

🔻🔻 ล่าสุดทางโตโยต้า ได้เปิดตัว Innova ใหม่อย่างเป็นทางการแล้วในอินโดนีเซีย ชื่อรุ่นว่า All-new Toyota Innova ZENIX HYBRID มาพร้อมการปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ใหม่ในสไตส์รถเอสยูวี ขุมพลังไฮบริด 2.0 ลิตร ที่ให้กำลังสูงสุด 186 แรงม้า มาพร้อมระบบขับเคลื่อนล้อหน้า โดยเจนเนอเรชั่นใหม่นี้ จะเป็นเจนฯ ที่ 3 ถูกพัฒนาขึ้นบนแพล็ตฟอร์มใหม่ TNGA แบบยูนิบอดี้ แทนการใช้แชสซีส์แบบขั้นบันไดร่วมกับกระบะ เหมือนรุ่นที่ผ่านมา ซึ่งเดิมเป็นโครงสร้างแบบ Monocoque พื้นฐาน TNGA Platform ที่เหมือนกับของ Hilux และ Fortuner พร้อมกับปรับเปลี่ยนจากรถขับเคลื่อนล้อหลัง ให้กลายเป็นรถแบบขับเคลื่อนล้อหน้า
มิติขนาดตัวรถ ปรับขยายขึ้นจากรุ่นที่ผ่านมา โดยมีความยาวอยู่ที่ 4,755 มม. (+20 มม.) และความกว้าง 1,850 มม. (+20 มม.) ขณะที่ความสูงไม่เปลี่ยนแปลงที่ 1,795 มม. และระยะฐานล้อ 2,850 มิลลิเมตร (+100 มม.) รวมถึงมีระยะต่ำสุดถึงพื้น Ground Clearance อยู่ที่ 185 มม.

🔻🔻 ดีไซน์รูปลักษณ์หน้าตาของ Toyota Innova ZENIX HYBRID ได้พัฒนารูปลักษณ์ให้มีความเป็นครอสโอเวอร์มากยิ่งขึ้น คมเข้มเหมือนกับรถแบบเอสยูวี ส่วนหน้าดูแข็งปแกร่งด้วยกระจังหน้าขนาดใหญ่ขึ้นทรงหกเหลี่ยมขที่ด้านในแบบลวดลายแบบลายรังผึ้ง ซึ่งดูคล้ายกับใน Toyota Corolla Cross ขนาบข้างด้วยชุดไฟหน้า LED แบบกว้างทรงเรียวยาวที่เชื่อมติดกับในส่วนกระจังหน้า ฝากระโปรงหน้าดีไซน์ให้มีเส้นสายที่ดูเฉียบคม กันชนหน้ามาพร้อมช่องไอดีที่ทันสมัย เสริมด้วยชุดไฟ DRLs LED ที่เป็นเส้นเรียวยาว
ด้านข้างตัวรถได้รับการออกแบบใหม้มีรูปทรงที่ปราดเปรียวมากขึ้นดูไม่เป็นทรงรูปกล่องเหมือนรุ่นที่่ผ่านมา เนื่องจากเสา D ถูกเลื่อนไปข้างหน้า และเสา A ถูกเลื่อนไปข้างหลังมากขึ้น พร้อมกับปรับดีไซน์ให้มีกลิ่นอายของรถสไตล์เอสยูวี ซุ้มล้อถูกตโป่งใทำให้ตัวรถดูมัมัดกล้ามเสริมด้วยขอบซุ้มล้อสีดำ รับกับชุดล้ออัลลอยลวดลายใหม่ที่มีขนาด 16 – 18 นิ้ว ขึ้นอยู่แต่ละรุ่นย่อย ชุดไฟท้าย มากับกันชนในสไตล์ SUV ประตูท้ายขนาดใหญ่ เปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า แบบตั้งตรงคล้าย Toyota RAV4

🟧🟧 สำหรับรุ่นไฮบริด ในตลาดอินโดนีเซียถูกแบ่งออกเป็นทั้งหมด 5 รุ่นย่อย ได้แก่ G, V, V Modellista, Q และ Q Modellista ทุกรุ่นถูกติดตั้งเครื่องยนต์ไฮบริดรหัส M20A-FXS ที่ทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร Dual VVT-i กำลังสูงสุด 152 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 149 นิวตัน-เมตร และมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 113 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 206 นิวตัน-เมตร ให้กำลังรวมทั้งระบบสูงสุด 186 แรงม้า ส่งกำลังไปยังล้อคู่หน้าด้วยเกียร์อัตโนมัติ e-CVT
นอกจากนี้ โตโยต้ายังคงทางเลือกสำหรับลูกค้าที่ต้องการเครื่องยนต์สันดาปล้วนอีก 2 รุ่นย่อย คือ 2.0 G และ 2.0 V ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ความจุ 2.0 ลิตร Dual VVT-i ให้กำลังสูงสุด 174 แรงม้า ที่ 6,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 205 นิวตัน-เมตร ที่ 4,500 - 4,900 รอบต่อนาที ส่งกำลังไปยังล้อคู่หน้าด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT โดยไม่มีเกียร์ธรรมดาให้เลือกแต่อย่างใด
ระบบช่วงล่างของ อินโนว่า Zenix Hybrid ด้านหน้าเป็นแบบแม็กเฟอร์สันสตรัท ด้านหลังแบบทอร์ชันบีม พร้อมเหล็กกันโคลงทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ขณะที่ล้ออัลลอยมีให้เลือกตั้งแต่ขนาด 16 นิ้ว ไปจนถึง 18 นิ้วขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย

📙📙 ภายในห้องโดยสารแบบที่นั่ง 3 แถว 7 ที่นั่ง เบาะแถวที่สองเป็นเบาะแบบ Captain seat แยกอิสระซ้าย-ขวา มาพร้อมที่รองต้นขาแบบ Ottoman ปรับด้วยไฟฟ้า คอนโซลข้างเบาะนั่งแบบพับเก็บได้ พร้อมกับติดตั้งที่วางแก้วน้ำ เบาะนั่งแถวที่ 3 แยกพับอิสระแบบ 50 : 50 คอนโซลหน้าจะมากับหน้าจออินโฟเทนเมนท์แบบสัมผัส ที่มีขนาด 9 นิ้วหรือ 10 นิ้ว รองรับการเชื่อต่อทั้ง รองรับการเชื่อมต่อทั้ง Apple Carplay และ Android Auto และระบบสั่งงานด้วยคำสั่งเสียง มาพร้อมหน้าแสดงข้อมูลขนาด 7 นิ้ว โดยจะมีทั้งแบบ มาตรวัดดิจิทัล และมาตรวัดแบบแข็ม
อุปกรณ์มาตรฐานเด่นของ อินโนว่า Zenix Hybrid ประตูท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า ที่สามารถสั่งงานด้วยคำสั่งเสียงได้ หน้าจอความบันเทิงขนาด 10 นิ้ว จำนวน 2 จอ ที่ติดตั้งบนพนักพิงที่นั่งสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง หลังคากระจก Panoramic Retractable Roof, พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นพร้อมแป้นเปลี่ยนเกียร์ Paddle Shift, ที่ชาร์จสมาร์ทโฟนไร้สายไร้สาย, ระบบเบรกมือไฟฟ้าพร้อม Brake Hold และมีที่วางแก้วครบทุกที่นั่ง รวมถึงช่องเสียบ USB-C 4 ช่อง

📙📙 ขณะที่ระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense จะถูกติดตั้งลงในรุ่นท็อปสุด (รุ่น Q / Q Modellista) เท่านั้น ประกอบด้วยระบบควบคุมความเร็วแบบแปรผันอัตโนมัติ Dynamic Radar Cruise Control (DRCC), ระบบป้องกันก่อนเกิดเหตุ Pre-Collision System (PCS), ระบบเตือนรถออกนอกเลนและช่วยประคองให้รถอยู่ในเลน Lane Departure Alert (LDA) & Lane Tracing Assist (LTA) และระบบไฟสูงอัตโนมัติ Automatic High Beam (AHB) รวมถึงกล้องมองภาพรอบคัน พร้อมกล้องมองภาพ 360 องศา และถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง (คู่หน้า ด้านข้างคู่หน้า และม่านถุงลม) จะมีให้เฉพาะรุ่นท็อปสุดเท่านั้น
ส่วนรุ่นย่อยอื่นๆ จะถูกติดตั้งระบบควบคุมเสถียรภาพ VSC, ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HSA, เซ็นเซอร์กะระยะ Parking Sensor, กล้องมองภาพขณะถอยจอด Parking Camera และจุดยึดเบาะนั่งเด็ก ISOFIX เป็นต้น

✴️✴️ สำหรับราคาจำหน่ายของรุ่นไฮบริดในอินโดนีเซียทั้ง 5 รุ่นย่อยจะอยู่ระหว่าง 458,000,000 - 611,000,000 รูเปียห์อินโดนีเซีย หรือประมาณ 💥 1,060,000 - 1,410,000 บาท 💥 ขณะที่รุ่นเบนซินอีก 2 รุ่นย่อยจะอยู่ระหว่าง 419,000,000 - 467,000,000 รูเปียห์ หรือประมาณ 💥 970,000 - 1,080,000 บาท 💥
สำหรับตลาดในเมืองไทย คงต้องลุ้นกันว่า Toyota Thailand จะนำเข้ามาจำหน่ายหรือไม่อย่างไร โดยเฉพาะ เจนเนเรชั่นที่ 3 นี้ ถ้านำเข้ามาจริง คาดว่า คงได้เห็นกันในช่วงกลางปีหน้าโน้น เนื่องจาก รถที่ผลิตในอินโดฯ ส่วนใหญ่มักจะนำมาขายในไทยด้วย โดยชื่ออย่างเป็นทางการของ Innova Zenix Hybrid นี้ ในอินโดนีเซียคือรุ่น Toyota Kijang Innova ในขณะที่ประเทศอื่นๆ จะเรียก Innova อย่างเดียว สำหรับรุ่นที่ 2 จะเรียกว่า Innova Crysta