ข่าวเด่น
โตแบบหยุดไม่อยู่! ยอดขายรถยนต์รวม 11 เดือน ปี 63 กระบะกระแสดีต่อเนื่อง
โตโยต้าเผยยอดขายรถยนต์เดือนพฤศจิกายน 2563 กระบะกระแสดียอดขายแตะ 42,763 คัน เพิ่มขึ้น 6.8% แต่เก๋งเล็กยอดขายสวนทางลดลง 7.2% อยู่ที่ 25,437 คัน
ตลาดรถยนต์สะสม 11 เดือน มีปริมาณการขาย 688,057 คัน ลดลง 24.7% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยตลาดรถยนต์นั่งมีอัตราการเติบโตลดลง 34.5% ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 320,883 คัน ลดลง 18.2% แต่หากนำยอดขายทุกเดือนตลอดทั้งปีมาเทียบกันจะพบว่ายอดขายฟื้นตัวอย่างเห็นได้ชัด เพราะทางภาครัฐไม่นิ่งนอนใจ ออกมาตรการเยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจในด้านต่างๆ เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายของภาคประชาชนอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ในด้านของตลาดรถยนต์ บรรดาค่ายรถยนต์ต่างๆยังคงมอบข้อเสนอพิเศษ รวมถึงนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ และปรับปรุงใหม่ในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 37 เพื่อสร้างแรงจูงใจให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น ส่งผลให้ตลาดรถยนต์ในเดือนธันวาคมมีทิศทางที่ดีขึ้น
ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ เดือนพฤศจิกายน 2563
1.ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 79,177 คัน เพิ่มขึ้น 2.7%
อันดับที่ 1 โตโยต้า | 28,279 คัน | เพิ่มขึ้น 4.0% | ส่วนแบ่งตลาด 35.7% |
อันดับที่ 2 อีซูซุ | 17,577 คัน | เพิ่มขึ้น 20.2% | ส่วนแบ่งตลาด 22.2% |
อันดับที่ 3 ฮอนด้า | 8,908 คัน | เพิ่มขึ้น 0.2% | ส่วนแบ่งตลาด 11.3% |
2. ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 25,437 คัน ลดลง 7.2%
อันดับที่ 1 โตโยต้า | 7,420 คัน | ลดลง 23.6% | ส่วนแบ่งตลาด 29.2% |
อันดับที่ 2 ฮอนด้า | 7,376 คัน | เพิ่มขึ้น 9.3% | ส่วนแบ่งตลาด 29.0% |
อันดับที่ 3 มาสด้า | 2,746 คัน | ลดลง 6.7% | ส่วนแบ่งตลาด 10.8% |
3. ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 53,740 คัน เพิ่มขึ้น 8.2%
อันดับที่ 1 โตโยต้า | 20,859 คัน | เพิ่มขึ้น 19.3% | ส่วนแบ่งตลาด 38.8% |
อันดับที่ 2 อีซูซุ | 17,577 คัน | เพิ่มขึ้น 20.2% | ส่วนแบ่งตลาด 32.7% |
อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ | 3,727 คัน | เพิ่มขึ้น 5.5% | ส่วนแบ่งตลาด 6.9% |
4. ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน* (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV) ปริมาณการขาย 42,763 คัน เพิ่มขึ้น 6.8%
อันดับที่ 1 โตโยต้า | 17,305 คัน | เพิ่มขึ้น 10.7% | ส่วนแบ่งตลาด 40.5% |
อันดับที่ 2 อีซูซุ | 16,578 คัน | เพิ่มขึ้น 24.0% | ส่วนแบ่งตลาด 38.8% |
อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ | 3,727 คัน | เพิ่มขึ้น 5.5% | ส่วนแบ่งตลาด 8.7% |
*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 5,318 คัน โตโยต้า 2,766 คัน - อีซูซุ 1,108 คัน - มิตซูบิชิ 838 คัน - ฟอร์ด 465 คัน – นิสสัน 141 คัน
5. ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 37,445 คัน เพิ่มขึ้น 3.3%
อันดับที่ 1 อีซูซุ | 15,470 คัน | เพิ่มขึ้น 21.5% | ส่วนแบ่งตลาด 41.3% |
อันดับที่ 2 โตโยต้า | 14,539 คัน | เพิ่มขึ้น 3.5% | ส่วนแบ่งตลาด 38.8% |
อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ | 2,889 คัน | เพิ่มขึ้น 6.7% | ส่วนแบ่งตลาด 7.7% |
สถิติการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมกราคม – พฤศจิกายน 2563
1. ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 688,057 คัน ลดลง 24.7%
อันดับที่ 1 โตโยต้า | 211,119 คัน | ลดลง 30.3% | ส่วนแบ่งตลาด 30.7% |
อันดับที่ 2 อีซูซุ | 158,277 คัน | เพิ่มขึ้น 3.8% | ส่วนแบ่งตลาด 23.0% |
อันดับที่ 3 ฮอนด้า | 82,966 คัน | ลดลง 28.7% | ส่วนแบ่งตลาด 12.1% |
2. ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 236,659 คัน ลดลง 34.5%
อันดับที่ 1 ฮอนด้า | 69,041 คัน | ลดลง 22.7% | ส่วนแบ่งตลาด 29.2% |
อันดับที่ 2 โตโยต้า | 59,341 คัน | ลดลง 44.9% | ส่วนแบ่งตลาด 25.1% |
อันดับที่ 3 นิสสัน | 24,666 คัน | ลดลง 25.7% | ส่วนแบ่งตลาด 10.4% |
3. ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 451,398 คัน ลดลง 18.3%
อันดับที่ 1 อีซูซุ | 158,277 คัน | เพิ่มขึ้น 3.8% | ส่วนแบ่งตลาด 35.1% |
อันดับที่ 2 โตโยต้า | 151,778 คัน | ลดลง 22.3% | ส่วนแบ่งตลาด 33.6% |
อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ | 31,541 คัน | ลดลง 29.5% | ส่วนแบ่งตลาด 7.0% |
4. ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน* (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV) ปริมาณการขาย 357,947 คัน ลดลง 19.9%
อันดับที่ 1 อีซูซุ | 146,901 คัน | เพิ่มขึ้น 6.1% | ส่วนแบ่งตลาด 41.0% |
อันดับที่ 2 โตโยต้า | 129,512 คัน | ลดลง 25.8% | ส่วนแบ่งตลาด 36.2% |
อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ | 31,541 คัน | ลดลง 29.5% | ส่วนแบ่งตลาด8.8% |
*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 37,064 คัน โตโยต้า 17,033 คัน – มิตซูบิชิ 8,224 คัน – อีซูซุ 5,333 คัน – ฟอร์ด 4,487 คัน – นิสสัน 1,315 คัน –เชฟโรเลต 672 คัน
5. ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 320,883 คัน ลดลง 18.2%
อันดับที่ 1 อีซูซุ | 141,568 คัน | เพิ่มขึ้น 9.1% | ส่วนแบ่งตลาด 44.1% |
อันดับที่ 2 โตโยต้า | 112,479 คัน | ลดลง 25.3% | ส่วนแบ่งตลาด 35.1% |
อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ | 23,317 คัน | ลดลง 28.3% | ส่วนแบ่งตลาด 7.3% |