Honda HR-V USA ขายดีเกินคาด ทำยอดจองทะลุ 6,000 คัน หลังเปิดตัวในอเมริกาได้แค่ เดือนเดียว ชี้เจาะตลาดคนรุ่นใหม่ที่เริ่มทำงานซื้อเป็นรถคันแรก เคาะค่าตัวแค่ 8.6 แสน แถมใหญ่กว่าบึกบึนกว่า รถเอสยูวีเวอร์ชั่นของญี่ปุ่นและไทย
All-new Honda HR-V 2023 ใหม่ ทาง ฮอนด้า สหรัฐอเมริกา เพิ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการ เมื่อช่วงต้นเดือนมิถุนายน 2565 ที่ผ่านมานี้เอง ปรากฏว่า ผ่านไปแค่เดือนเดียว ก็เกิดกระแสที่หลายคนคาดไม่ถึง เมื่อ ฮอนด้า สหรัฐอเมริกา ได้ประกาศออกมาว่า สามารถทำยอดจองได้มากกว่า 6,000 คัน ถือว่า รถครอสโอเวอร์รุ่นดังกล่าว ได้รับความนิยมจากชาวมะกันอย่างคาดไม่ถึง
เหตุผลที่เป็นเช่นนั้น น่าจะทางฮอนด้า อเมริกา จับกลุ่ม ชาวมะกันรุ่นใหม่ ที่เพิ่งซื้อรถยนต์คันแรกเพื่อใช้ในชีวิตประจำวันทั่วไป หรือขับไปเที่ยวในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ประกอบกับ Honda HR-V ที่วางจำหน่ายในสหรัฐอเมริกา เป็นคนละเวอร์ชันกับตลาดญี่ปุ่นและไทย โดยเน้นเส้นสายที่ดูบึกบึน สมกับความเป็นรถเอสยูวีมากกว่า แถมดีไซน์ที่ฉีกแนวไปจาก HR-V เวอร์ชันญี่ปุ่นและไทย อย่างชัดเจน พร้อมด้วยขนาดตัวถังที่ใหญ่กว่าด้วย
Honda HR-V 2023 เวอร์ชั่นอเมริกา ทาง Honda USA ได้ประกาศราคาจำหน่าย ตั้งแต่ที่เปิดให้จองเมื่อต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา มีให้เลือกทั้งหมด 6 รุ่นย่อย กับราคาเริ่มที่ 23,650 – 28,950 ดอลลาร์สหรัฐ คิดตามค่าเงินบาทไทย (36-37 บาท/ดอลล่าร์) ประมาณ 860,000 – 1,050,000 บาท หรือประมาณ 1.05 ล้านบาท สำหรับตัวท๊อป โดยเป็นราคาไม่รวมภาษีนำเข้าของไทย แต่ถ้ารวมภาษีนำเข้าแล้วจะอยู่ที่ 2 ล้านปลายๆ หรือเหยียบ 3 ล้านบาท จากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าในขณะนี้
สำหรับ All-new Honda HR-V 2023 ใหม่ ที่ทำตลาดจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่น และเมืองไทย เป็นคนละเวอร์ชั่นกัน และมีแนวโน้มว่า ทางฮอนด้า ญี่ปุ่น เตรียมจะเอา HR-V เวอร์ชันอเมริกัน มาวางจำหน่ายในชื่อ “ZR-V” เช่นเดียวกับตลาดยุโรป คาดว่าเตรียมเปิดตัวภายในปีนี้อย่างแน่นอน ส่วนบ้านเรายังไม่มีการยืนยันว่า จะนำเข้ามาจำหน่ายควบคู่ไปกับ HR-V ใหม่ ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อปลายปีที่แล้วด้วยหรือไม่ เพราะในเมืองไทย ก็ยังผลิตเพื่อส่งให้ลูกค้ากัยังไม่ค่อยทันเลย
All-new Honda HR-V 2023 สเปกเวอร์ชั่นอเมริกา ถูกพัฒนาขึ้นบนแพลตฟอร์มเดียวกับ Honda Civic เจเนอเรชันที่ 11 ซึ่งต่างจาก เวอร์ชั่นไทย ที่ใช้แพลตฟอร์มเดียวกับตัว Honda Jazz มาพร้อมกับรูปลักษณ์หน้าตาที่แตกต่างไปทั้งในเวอร์ชั่นไทยและที่มีวางจำหน่ายในยุโรป โดยได้ปรับขนาดความยาวของฐานล้อให้ยาวขึ้น 1.7 นิ้ว (43 มม.) จากรุ่นที่ผ่านมา รวมถึงความยาวตัวรถจากหน้าถึงด้านหลังที่ยาวขึ้น 9.4 นิ้ว (239 มม.) จึงทำให้ HR-V ใหม่นี้มีขนาดที่ใหญ่ใกล้เคียงกับ CR-V
รูปลักษณ์การออกแบบ จะมากับการดีไซน์ที่ดูบึกบึนและใหญ่โตกว่าเวอร์ชันอื่น ๆ ทั่วโลก ฝากระโปรงหน้าที่ลาดยาว รับกับกระจังหน้าทรงหกเหลี่ยม ขนาบข้างด้วย ไฟหน้าแบบ LED ที่ออกแบบให้มีขนาดใหญ่ มาพร้อมไฟเลี้ยวแบบ LED รูปทรงตัว L ชุดกันชนหน้าได้รับการดีไซน์ใหม่ยกชุด พร้อมกับติดตั้งล้ออัลลอยที่มีขนาด 17 – 18 นิ้วขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย
ภายในห้องโดยสาร เวอร์ชันอเมริกัน แตกต่างไปจาก HR-V ของญี่ปุ่นและไทย มีการปรับปรุงชิ้นส่วนต่างๆ ให้มีสัมผัสและคุณภาพที่ดียิ่งขึ้น ไม่เว้นแม้กระทั่งสัมผัสที่ได้จากการกดและหมุนปุ่มควบคุมต่างๆ โดยทุกรุ่นย่อยถูกติดตั้งหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ LCD ขนาด 7 นิ้ว ที่สามารถแสดงการทำงานของระบบ Honda Sensing ได้ ขณะที่หน้าจอเครื่องเสียง สำหรับรุ่นเริ่มต้น LX และรุ่น Sport เป็นแบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว พร้อมปุ่มควบคุมระดับเสียงและเปลี่ยนคลื่นวิทยุเพื่อความสะดวกในการใช้งาน ส่วนในรุ่นท็อป EX-L จะมีขนาด 9 นิ้ว
ภายในห้องโดยสารถูกตกแต่งให้มีลักษณะเหมือนกับในตัว Civic รุ่นปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นช่องระบายอากาศแบบแถบตาข่าย มาพร้อมที่ปรับและควบคุมแบบมือหมุน โดยทุกไซซ์ทุกขนาดจะรองรับการเชื่อมต่อทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto ส่วนล่างของหน้าจอ ช่วยเพิ่มความสะดวกในการใช้จอสัมผัสขณะขับขี่ เสริมด้วยแป้นชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สายและลำโพงคุณภาพสูง 8 จุดรอบห้องโดยสาร
สำหรับขุมพลังของ Honda HR-V 2023 สเปกอเมริกา จะติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร กำลังสูงสุด 158 แรงม้า (HP) แรงบิดสูงสุด 187 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT และสามารถเลือกระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ Real Time AWD ที่มีระบบ Intelligent Control ช่วยส่งกำลังไปยังล้อคู่หลังโดยอัตโนมัติเมื่อถนนลื่น
ทั้งยังมีการติดตั้งระบบช่วยควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน Hill Descent Control มาให้เป็นครั้งแรกในรถเอสยูวีของฮอนด้า ซึ่งผู้ขับขี่สามารถปรับตั้งความเร็วโดยใช้แป้นคันเร่งหรือเบรกได้ตั้งแต่ 2 - 12 ไมล์ต่อชั่วโมง (ประมาณ 3 - 20 กม./ขม.) จากนั้นเมื่อปล่อยเท้าออกตัวรถจะรักษาระดับความเร็วนั้นไว้โดยอัตโนมัติ
Honda HR-V ใหม่ มาพร้อมระบบความปลอดภัย Honda Sensing ที่ถูกเพิ่มเติมด้วยระบบช่วยขับขี่ในขณะรถติด Traffic Jam Assist (TJA), ระบบอ่านป้ายจราจร Traffic Sign Recognition (TSR) ควบคู่ไปกับระบบที่มีอยู่เดิม เช่น ระบบควบคุมความเร็วแบบแปรผันอัตโนมัติ Adaptive Cruise Control (ACC), ระบบช่วยตามรถคันหน้าที่ความเร็วต่ำ Low-Speed Follow และระบบช่วยประคองรถให้อยู่ในเลน Lane Keeping Assist (LKA) เป็นต้น
Honda HR-V 2023 สเปกอเมริกา จะมีให้เลือก 6 รุ่น ย่อย ได้แก่ ตั้งแต่รุ่นถูก LX Sport คือ LX (FWD) LX (AWD) Sport (FWD) Sport (AWD) และรุ่นท๊อป EX-L (FWD) และ EX-L (AWD) ในราคาเริ่มต้น 23,650- 28,950 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 860,000 – 1,050,000 บาท ตามค่าเงินบาทที่อ่อนตัวอย่างแรงในขณะนี้ ส่วนจะนำเข้ามาไทยหรือไม่ ก็ดาดใจ ฮอนด้า ไทยแลนด์ ได้ยากเหมือนกันครับ ...
