Home
News
Review
Spec & Price
Press Release
Activities
Contact Us
Menu
Home
News
Review
Spec & Price
Press Release
Activities
Contact Us
Search
Search
Close this search box.
Search
Search
Close this search box.
GWM ผนึกกำลังรถยนต์สัญชาติจีน มุ่งสร้างการเติบโต และ ความแข็งแกร่งด้านอุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานใหม่ในไทย
October 30, 2024
Youtube
เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย) หนึ่งในผู้นำรถยนต์พลังงานใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงและนวัตกรรม เผยความท้าทายของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยท่ามกลางสภาวะตลาดหดตัวอย่างต่อเนื่อง พร้อมเสนอแนวทางความร่วมมือ ผ่านการร่วมแรงร่วมใจจากแบรนด์รถยนต์สัญชาติจีนที่ทำตลาดในประเทศไทย สู่โซลูชันเพื่อการมุ่งเน้นสร้างการเติบโตทางธุรกิจ พร้อมเสริมความแข็งแกร่งของทั้งอุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานใหม่ในประเทศไทยอย่างยั่งยืน นำเสนอแนวคิดโดย ไมเคิล ฉง กรรมการผู้จัดการ เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย) ในงาน 2nd Southeast Asia-China EV Industry Conference 2024 เมื่อไม่นานมานี้ ณ โรงแรมคอนราด กรุงเทพฯ
ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีพลังงานใหม่ (NEV) ของประเทศจีน เกิดจากความร่วมมือผู้ประกอบการ และกรอบนโยบายทางการเมืองที่แข็งแกร่ง เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้อุตสาหกรรม NEV ของจีนเข้ามาเปลี่ยนแปลงโลก โดยเมื่อมองย้อนกลับไปในอดีต การพัฒนา NEV เป็นกลยุทธ์ระดับชาติที่รัฐบาลจีนริเริ่มจากเหตุผลหลากหลายประการ ไม่ว่าจะเป็น ความมั่นคงด้านราคาน้ำมัน มลพิษทางอากาศ และการพัฒนาอุตสาหกรรม ซึ่งเมื่อสิบปีก่อน ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง กล่าวว่า "การพัฒนา NEV เป็นหนทางเดียวสำหรับจีนในการขึ้นสู่การเป็นมหาอำนาจด้านยานยนต์" ส่วนสำคัญของกลยุทธ์การพัฒนา NEV ของจีน คือ การมีส่วนร่วมในการแข่งขันและประสบความสำเร็จในระดับโลก
อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันทั้งอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทยกำลังประสบกับปัญหาในการดำเนินธุรกิจด้วยสภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว อย่างต่อเนื่อง รวมถึงผลกระทบในวงกว้างจากสงครามราคาที่ดุเดือดอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้การดำเนินธุรกิจ มีความท้าทายเป็นอย่างมาก จากข้อมูลล่าสุด ยอดการผลิตและยอดขายของรถยนต์ในประเทศไทยมีอัตราที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งแต่เดือนมกราคมถึงมิถุนายน ปี 2567 มียอดขายรวม 307,810 คัน ลดลง 24% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2566 โดยเมื่อเทียบเป็นรายปี พบยอดขายของรถยนต์พีพีวี ลดลง 43% รถกระบะลดลง 40% รถยนต์นั่งส่วนบุคคลลดลง 14% และรถยนต์เอสยูวีลดลง 11% ในทางกลับกัน แบรนด์รถยนต์ สัญชาติจีนที่หลากหลายกว่า 10 แบรนด์ ที่ได้เข้ามาทำตลาดในประเทศไทย ได้สร้างบรรทัดฐานใหม่ให้แก่อุตสาหกรรมยานยนต์ ด้วยการมอบประสบการณ์ทางเลือกที่ดีกว่า สู่การเดินทางและการขับขี่ที่อัจฉริยะ และมาพร้อมพลังงานสะอาดเพื่อการเดินทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในทุก ๆ เส้นทาง เป็นตัวเลือกที่มีคุณภาพ และล้ำหน้าไปด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมขั้นสูง อย่างไรก็ตาม ความท้าทายในการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยของแบรนด์รถยนต์สัญชาติจีน และตลอดทั้งอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นด้านบริการทางการเงิน โลจิสติกส์ และความสามารถด้านการบริหารจัดการธุรกิจในตลาดต่างประเทศ ยังคงเป็นประเด็นสำคัญที่แบรนด์ต่างล้วนเร่งหากลยุทธ์ที่จะช่วยมุ่งเน้นสร้างการเติบโต และความแข็งแกร่งทางธุรกิจอย่างยั่งยืนทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ
ไมเคิล ฉง กรรมการผู้จัดการ เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า “ในช่วงเวลาแห่งความท้าทายนี้ แบรนด์รถยนต์พลังงานใหม่สัญชาติจีนจำเป็นต้องมุ่งเน้นไปที่การปรับปรุงโครงสร้างภายในแทนการทำการตลาดที่เน้นราคา มุ่งเน้นความร่วมมือด้านการลงทุน เทคโนโลยี การทำการตลาด และห่วงโซ่อุปทาน เพื่อสร้างสวนอุตสาหกรรมในตลาดต่างประเทศร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็น การพัฒนาและปรับปรุงในด้านการวิจัย และการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ล้ำหน้า การผลิตผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพมาตรฐานโลก การส่งเสริมการขายที่เป็นธรรมต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่ายเพื่อประโยชน์โดยรวมต่อทั้งอุตสาหกรรม นำไปสู่ประสบการณ์การใช้งานที่ดีเลิศของผู้บริโภค จนนำไปสู่ชื่อเสียงในระดับโลก และเพื่อเป็นการร่วมฝ่าฟันช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ การทำงานผ่านความร่วมมือกันของแบรนด์รถยนต์สัญชาติจีนที่ดำเนินธุรกิจในไทย คือหนึ่งกุญแจสำคัญสู่โซลูชันที่จะสร้างการเติบโตทางธุรกิจในไทยได้อย่างแข็งแกร่ง โดยการลงทุนที่ครอบคลุมหลากหลายด้าน คือ หนึ่งในโซลูชันสำคัญ ทั้งการส่งเสริมการลงทุนผ่านผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมรวมถึงเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการการใช้งานของกลุ่มเป้าหมายในอนาคตที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น ในขณะที่การลงทุนด้านห่วงโซ่อุปทาน คือ การมุ่งเน้นลงทุนในอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่องตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ รวมไปถึงการผนึกกำลังด้านการลงทุนเพื่อการขยายตลาดในต่างประเทศ ล่าสุด มีแบรนด์รถยนต์พลังงานใหม่สัญชาติจีน 6 แบรนด์ที่มีฐานการผลิตในประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งเป็นสัญญาณบวกที่ชี้ชัดว่า ประเทศไทยมีศักยภาพสูง และเป็นศูนย์กลางในภูมิภาคสำหรับการผลิตและส่งออกรถยนต์พวงมาลัยขวาไปยังตลาดโลก สะท้อนขีดความสามารถของทักษะแรงงานชาวไทย และยังส่งผลให้เศรษฐกิจ และสังคมไทยเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน”
“ในขณะที่อีกหนึ่งความสำคัญที่ช่วยเร่งสร้างการเติบโตทางธุรกิจในไทย คือ ความร่วมมือจากภาครัฐระหว่างประเทศไทยและประเทศจีนในระยะยาว ไม่ว่าจะเป็นโครงการ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” หรือ “Belt and Road Initiative” (BRI) ซึ่งเป็นนโยบายความร่วมมือระดับโลกระหว่างจีนและนานาชาติ โดยให้ความสำคัญด้านเศรษฐกิจเป็นหลัก และยุทธศาสตร์ “ไทยแลนด์ 4.0” ซึ่งจะเน้นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยด้วยนวัตกรรม นโยบายการส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้าของภาครัฐทั้งสองเฟส (EV 3.0 และ EV 3.5) ที่ผลักดันการเข้ามาลงทุนของบริษัทรถยนต์จากประเทศจีน โดยในเฟสแรกมีรถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติจีน เข้าร่วมถึง 15 บริษัทจาก 13 แบรนด์ รวมไปถึง “โครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกของไทย” หรือ “Eastern Economic Corridor” (EEC) ซึ่งเป็นพื้นที่สำหรับยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทย โดยการผสานโครงการเหล่านี้เข้าด้วยกัน นำไปสู่ความร่วมมือระหว่างห่วงโซ่อุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานใหม่ของประเทศจีนและประเทศไทย ซึ่งไม่เพียงช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทยและสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจสีเขียวเท่านั้น แต่ยังเป็นแรงขับเคลื่อนใหม่ในการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ของทั้งสองประเทศ รวมถึงการเติบโตที่มั่นคงของเศรษฐกิจในภูมิภาคอาเซียนอีกด้วย” ไมเคิล ฉง กล่าวเสริม
การร่วมมือกันของแบรนด์รถยนต์พลังงานใหม่สัญชาติจีนที่ดำเนินธุรกิจในประเทศไทย จะนำไปสู่การพัฒนาอุตสาหกรรม ยานยนต์พลังงานใหม่ในไทยสู่เวทีโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพและเต็มภาคภูมิ ดังที่ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้มุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องในการสร้างไลฟ์สไตล์ด้านยานยนต์และการขับขี่ให้สอดคล้องกับแนวคิดอย่าง “New Energy New Intelligence New Experience” ให้กับลูกค้าทั่วโลก ควบคู่ไปกับการส่งมอบรถยนต์ที่เปี่ยมไปด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมสุดอัจฉริยะ สู่การเปลี่ยนแปลงระบบนิเวศยานยนต์พลังงานใหม่ให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น
Previous Article
Next Article
You May Also Like
ISUZU ร่วมกับ กรมการขนส่งทางบกจัด “โครงการสร้างนักขับรถมืออาชีพ ปีที่ 2”
อ่านเพิ่มเติม
ประกาศผลรางวัลรอบชิงชนะเลิศ การประกวดแต่งรถกระบะ TOYOTA HILUX REVO-D Z EDITION
อ่านเพิ่มเติม
RIDDARA RD6 รถกระบะไฟฟ้า 100% มาทั้งรุ่น 2WD และ 4WD ราคาเริ่มต้น 899,000 บาท
อ่านเพิ่มเติม
เปิดตัว RIDDARA RD6 รถกระบะไฟฟ้า 100% ครั้งแรกในไทย ราคาเริ่มต้น 899,000 บาท
อ่านเพิ่มเติม
Home
News
Review
Spec & Price
Press Release
Activities
Contact Us
Home
News
Review
Spec & Price
Press Release
Activities
Contact Us