Search
Close this search box.

ตลาดรถยนต์เดือนกรกฎาคมชะลอตัว ยอดขาย 46,394 คัน ลดลง 20.6%

ตลาดรถยนต์เดือนกรกฎาคม 2567 มียอดขาย 46,394 คัน ลดลง 20.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมากลุ่มตลาดรถยนต์นั่งชะลอตัวที่ 26.4% ด้วยยอดขาย 16,571 คัน ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ชะลอตัวเช่นกันที่ 16.9% ด้วยยอดขาย 29,823 คัน และตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน ชะลอตัว ด้วยยอดขาย 16,125 คันลดลง 35.5% ในส่วนของตลาด xEV มียอดขายทั้งหมด 17,243 คัน คิดเป็นสัดส่วน 37.2% ของตลาดรถยนต์ทั้งหมด เติบโตขึ้น 41.4% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ยอดขายรถยนต์ HEV เติบโตขึ้น 44.3% ด้วยยอดขาย 9,203 คัน ในขณะที่ยอดขายรถยนต์ BEV อยู่ที่ 7,265 คัน เพิ่มขึ้น 48%

ตลาดรถยนต์เดือนสิงหาคมมีแนวโน้มจะปรับตัวดีขึ้นจากเดือนกรกฎาคมแต่ยังคงเติบโตลดลง เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งเป็นผลมาจากความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงิน และสภาวะเศรษฐกิจโดยรวม ทั้งนี้ การเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่และโปรโมชั่นพิเศษจากหลากหลายค่ายรถยนต์ ภายในงาน “BIG MOTOR SALE 2024” ที่ในปีนี้มาพร้อมกับคอนเซ็ปต์ “ยกโชว์รูม มาขายที่นี่” อาจมีส่วนช่วยในการกระตุ้นการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค และอาจเป็นผลให้ยอดขายเติบโตขึ้นเล็กน้อย

นายศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท โตโยต้ามอเตอร์ ประเทศไทยรายงานสถิติการขายรถยนต์ประจำเดือนกรกฎาคม 2567 ยอดขายตลาดรวม 46,394 คันลดลง 20.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาตลาดรถยนต์นั่งมีปริมาณการขาย16,571คันลดลง 26.4% ในขณะที่รถยนต์เพื่อการพาณิชย์มีปริมาณการขาย 29,823 คัน ลดลง 16.9% และรถกระบะขนาด 1 ตัน ยอดขายทั้งหมด 16,125 คัน ลดลง 35.5%

ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ เดือนกรกฎาคม2567
1. ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 46,394 คันลดลง 20.6%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 17,786 คัน ลดลง 12.9% ส่วนแบ่งตลาด 38.3%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 6,784 คัน ลดลง 42.2% ส่วนแบ่งตลาด 14.6%
อันดับที่ 3 ฮอนด้า 5,442 คัน ลดลง 27.9% ส่วนแบ่งตลาด 11.7%

2. ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 16,571 คันลดลง 26.4%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 5,313 คัน ลดลง 34% ส่วนแบ่งตลาด 32.1%
อันดับที่ 2 ฮอนด้า 2,623 คัน ลดลง 46.7% ส่วนแบ่งตลาด 15.8%
อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ 1,083 คัน ลดลง 0.3% ส่วนแบ่งตลาด 6.5%

3. ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 29,823 คัน ลดลง 16.9%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 12,473 คัน เพิ่มขึ้น 0.8% ส่วนแบ่งตลาด 41.8%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 6,784 คัน ลดลง 42.2% ส่วนแบ่งตลาด 22.7%
อันดับที่ 3 ฮอนด้า 2,819 คัน เพิ่มขึ้น 7.2% ส่วนแบ่งตลาด 9.5%

4. ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*)
ปริมาณการขาย 16,125 คัน ลดลง 35.5%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 7,369 คัน ลดลง 27% ส่วนแบ่งตลาด 45.7%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 5,843 คัน ลดลง 42.9% ส่วนแบ่งตลาด 36.2%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 1,947 คัน ลดลง 29.3% ส่วนแบ่งตลาด 12.1%
*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 2,958 คัน
อีซูซุ 1,160 คัน –โตโยต้า 933 คัน – ฟอร์ด 759 คัน –มิตซูบิชิ 91 คัน – นิสสัน 15 คัน

5. ตลาดรถกระบะPure Pick up ปริมาณการขาย 13,167 คัน ลดลง 35.2%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 6,436 คัน ลดลง 22.6% ส่วนแบ่งตลาด 48.9%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 4,683 คัน ลดลง 45.2% ส่วนแบ่งตลาด 35.6%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 1,188 คัน ลดลง 34.7% ส่วนแบ่งตลาด 9%

สถิติการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมกราคม –กรกฎาคม 2567
1. ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 354,421คัน ลดลง 23.7%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 134,064 คัน ลดลง 14.8% ส่วนแบ่งตลาด 37.8%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 53,044 คัน ลดลง 45.9% ส่วนแบ่งตลาด 15%
อันดับที่ 3ฮอนด้า 48,941 คัน ลดลง 8.8% ส่วนแบ่งตลาด 13.8%

2. ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 135,897 คัน ลดลง 20.3%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 38,577 คัน ลดลง 34.7% ส่วนแบ่งตลาด 28.4%
อันดับที่ 2 ฮอนด้า 27,253 คัน ลดลง 22.9% ส่วนแบ่งตลาด 20.1%
อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ 10,970 คัน เพิ่มขึ้น 2.9% ส่วนแบ่งตลาด 8.1%

3. ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 218,524 คัน ลดลง 25.7%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 95,487 คัน ลดลง 2.8% ส่วนแบ่งตลาด 43.7%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 53,044 คัน ลดลง 45.9% ส่วนแบ่งตลาด 24.3%
อันดับที่ 3 ฮอนด้า 21,688 คัน เพิ่มขึ้น 18.3% ส่วนแบ่งตลาด 9.9%

4. ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*)
ปริมาณการขาย 124,562 คัน ลดลง 40.1%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 57,058 คัน ลดลง 29.2% ส่วนแบ่งตลาด 45.8%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 46,436 คัน ลดลง 47.7% ส่วนแบ่งตลาด 37.3%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 13,229 คัน ลดลง 42.2% ส่วนแบ่งตลาด 10.6%
*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 21,814 คัน
โตโยต้า 7,914 คัน – อีซูซุ 7,089 คัน –ฟอร์ด 5,022 คัน –มิตซูบิชิ 1,543 คัน – นิสสัน 246 คัน

5. ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 102,748 คัน ลดลง 39.6%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 49,144 คัน ลดลง 26.8% ส่วนแบ่งตลาด 47.8%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 39,347 คัน ลดลง 47.7% ส่วนแบ่งตลาด 38.3%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 8,207 คัน ลดลง47.6% ส่วนแบ่งตลาด 8%