Search
Close this search box.

MG เผยสเปก ALL NEW MG3 HYBRID+ ก่อนเปิดตัวปลายเดือน ก.ค.

เอ็มจี เผยสเปคALL NEW MG3 HYBRID+ เปลี่ยนนิยามรถไฮบริด โกลบอลโมเดลรุ่นล่าสุด กับเทคโนโลยีไฮบริดรุ่นใหม่ “ที่สุดของรถไฮบริดในกลุ่ม B-Segmentประหยัดกว่า แรงกว่า กว้างกว่า ปลอดภัยกว่า” พร้อมเคาะราคาอย่างเป็นทางการ สิงหาคมนี้

ALL NEW MG3 HYBRID+ รถแฮทช์แบ็กไฮบริด 5 ประตู รุ่นล่าสุดของ เอ็มจี ผลิตในประเทศไทย มอบประสบการณ์การขับขี่ผสานความลงตัวของทุกระบบไฮบริด สู่นวัตกรรมที่จะเปลี่ยนทุกความคุ้นชิน ของรถไฮบริดในรูปแบบเดิมๆด้วยขุมพลังไฮบริดมากถึง 8 โหมดขับเคลื่อนปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสมของผู้ขับขี่สามารถขับได้ไกลสูงสุดมากกว่า 800 กิโลเมตรแตกต่างด้วยดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ เทคโนโลยีที่ทันสมัย ระบบความปลอดภัยที่ครอบคลุมมอบความคุ้มค่ามากที่สุด และการันตีสมรรถนะที่ยอดเยี่ยมด้วยรางวัล และผลการทดสอบโดยทีมวิศวกรรมชั้นนำระดับโลก

มิติตัวถัง 4,113 x 1,797 x 1,502 มม. (ยาว x กว้าง x สูง)
ระยะความยาวฐานล้อ 2,570 มม.
ล้ออัลลอยด์ขนาด 16 นิ้ว
ระยะต่ำสุดจากพื้น 117 มม.

ภายนอก
• ดีไซน์ไฟหน้าแบบใหม่ Hunter Eye Headlamp
• พร้อมกระจังหน้าแบบใหม่
• ไฟหน้าแบบ LED พร้อมระบบเปิด-ปิด ไฟหน้าอัตโนมัติ
• ไฟท้ายและไฟเบรกดวงที่สาม
• ไฟตัดหมอกหลัง
• ไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวัน (Daytime Running Lights)
• กระจกมองข้างปรับไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยว และพับอัตโนมัติ

ภายในมาพร้อม
• พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันหุ้มหนังพร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียง
• กระจกไฟฟ้า One Touch Up-Down ด้านผู้ขับขี่
• หน้าจอแสดงผลอัจฉริยะแบบดิจิตอลขนาด 7 นิ้ว และหน้าจอสี ระบบสัมผัสขนาด 10.25นิ้ว
• ลำโพง 6 จุด
• เบาะนั่งคนขับปรับ6 ทิศทาง และเบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับ 4 ทิศทาง
• ที่พักแขนด้านหน้า และเบาะนั่งด้านหลังพนักพิงพับได้
• ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
• รองรับระบบเชื่อมต่อมัลติมีเดีย Apple CarPlay และสมาร์ทโฟนระบบ Android แบบไร้สาย
• ระบบกุญแจรีโมทอัจฉริยะ (Smart Key) พร้อมปุ่ม Push Start
• ระบบปรับอากาศแบบดิจิตอล
• ระบบกรองอากาศ PM 2.5

สมรรถนะ
ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว DVVT 102 แรงม้า (75 กิโลวัตต์) และมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ High-performance Permanent Magnet Synchronous Motors กำลังสูงสุด 136 แรงม้า (100 กิโลวัตต์) แรงบิดสูงสุด 250 นิวตัน-เมตร แรงสุดในกลุ่ม B-Segment อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใช้เวลา 8 วินาทีและอัตราเร่ง 80-120 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในเวลา 5 วินาที ระบบ HYBRID+ 8 โหมดขับเคลื่อน การขับขี่ประหยัดน้ำมันสามารถวิ่งได้ไกลกว่า 800 กม.

• แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาดใหญ่ ในรูปแบบ Cell-To-Pack ความจุ 1.83 kWh ซึ่งมีความจุมากที่สุดในรถขนาดเดียวกัน
• โหมดการขับขี่ 3 รูปแบบ ได้แก่ ECO, NORMAL, SPORT
• ระบบส่งกำลังHybrid Transmission ขับเคลื่อนด้วยเกียร์ไฟฟ้าแบบ E-AT 3 อัตราทดเกียร์ปรับการทำงานแบบอัตโนมัติ
• ระบบ KERS (Kinetic Energy Recovery System) 3 ระดับ ได้แก่ มาก ปานกลาง และน้อย
• รัศมีวงเลี้ยว5.2เมตร
• ระบบพวงมาลัยแร็คแอนด์พิเนียน ควบคุมด้วยไฟฟ้า (EPS)
• ระบบช่วงล่างหน้า MacPherson Strut พร้อมเหล็กกันโคลง
• ระบบช่วงล่างหลัง Torsion Beam
• ดิสก์เบรกหน้าพร้อมช่องระบายความร้อน และดิสก์เบรกหลัง

ระบบความปลอดภัยมาตรฐาน ADVANCED SYNCHRONIZED PROTECTION SYSTEM และ ADAS
• ระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB (Electronic Parking Brake)
• ระบบป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้าง AVH(Auto Vehicle Hold)
• ระบบป้องกันล้อล็อก ABS(Anti-lock Braking System)พร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD (Electronic Brake Force Distribution)
• ระบบเสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBA (Electronic Brake Assist)
• ระบบควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้งด้วยความเร็ว XDS (Electronic Differential System)
• ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล TCS (Traction Control System)
• ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAS (Hill Start AssistSystem)
• ระบบสัญญาณไฟแจ้งเตือน เมื่อมีการเบรกฉุกเฉิน ESS (Emergency Stop Signal)
• ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC (Adaptive Cruise Control)
• ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ TJA (Traffic Jam Assist)
• ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนพร้อมปรับองศาพวงมาลัยหากออกนอกเลน ELK
• ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าขณะขับขี่ FCW (Forward Collision Warning)
• ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ AEB (Autonomous Emergency Braking)
• ระบบตรวจจับพฤติกรรมการขับขี่ UDW (Unsteady Driving Warning)
• ระบบควบคุมความเร็วรถอัตโนมัติ ICA (Intelligent Cruise Assist)
• ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ IHC (Intelligent High-beam control)
• ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง TPMS (Tire Pressure Monitor System)
• ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัย
• กล้องรอบคัน 360 องศาแบบ High Definition
• จุดยึดเบาะนั่งเด็กแบบ ISOFIX
• ระบบล็อกประตูอัตโนมัติ (Speed Sensing Door Lock)
• สัญญาณเตือนระยะถอยหลัง
• ระบบกุญแจนิรภัยแบบ Immobilizer
• ระบบไฟส่องนำทางหลังจากดับเครื่อง (FOLLOW ME HOME)

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ MG CALL CENTRE โทร. 1267 และสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมของเอ็มจีได้ที่
Website: www.mgcars.com
Line: @MGThailand
Facebook: www.facebook.com/MGcarsThailand
Twitter: @mg_thailand
Instagram: @mgthailand
Youtube: MG Thailand
TikTok: @mgthailand
Application: MG Thailand