Search
Close this search box.

OMODA & JAECOO เปิดตัว Super Hybrid System (SHS) พร้อมเผยกลยุทธ์ในงาน Shanghai Auto Show 2025

Shanghai International Automobile Industry Exhibition หรือ Shanghai Auto Show 2025 เริ่มต้นอย่างยิ่งใหญ่ในวันที่ 23 เมษายน 2025 ซึ่งตรงกับวันครบรอบ 2 ปีของ OMODA & JAECOO ที่จัดขึ้นในหัวข้อ “อยู่ด้วยกัน 2 ปี จากก้าวแรก สู่ก้าวกระโดด - 2 Years 2gather: From Seed to Speed” ในงานครบรอบดังกล่าวนี้ OMODA & JAECOO นำเสนอรถยนต์ Super Hybrid System (SHS) หลายรุ่น เช่นรุ่น OMODA C7 SHS, OMODA C5 SHS และรถยนต์พลังงานไฟฟ้าอย่างรุ่น JAECOO 5 EV โดยบริษัทฯ พร้อมดำเนินตามวิสัยทัศน์ “Born Global, Born NEV” แม้ว่าจะเป็นแบรนด์รถยนต์ใหม่ในท้องตลาด แต่เป็นแบรนด์ที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก

ในโอกาสเดียวกันนี้ คุณชอว์น ฉู ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของโอโมด้า แอนด์ เจคู่ ได้กล่าวถึงแนวทางการพัฒนาของบริษัทฯ ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่การเริ่มเข้าสู่ตลาดทวีปยุโรปและขยายตลาดไปทั่วโลก รวมไปจนถึงการได้รับการรับรองผลิตภัณฑ์ที่สอดคล้องตามแนวคิด “Global Standard, Global Quality” ไปจนถึงการก้าวขึ้นเป็นผู้นำเทคโนโลยีเครื่องยนต์ไฮบริดของโลก OMODA & JAECOO ยกระดับตนเอง “จากก้าวแรกสู่ก้าวกระโดด” นับตั้งแต่การเปิดตัวแบรนด์เป็นครั้งแรกในโลกในงาน Shanghai Auto Show 2023 จนมาถึงหลักชัยสำคัญในงาน Shanghai Auto Show 2025 กล่าวโดยสรุปแล้ว OMODA & JAECOO ก้าวสู่ ยุคสมัยใหม่ของการยกระดับความก้าวหน้าในตลาดรถยนต์พลังงานใหม่ (NEV) ไปอีกขั้นอย่างเป็นทางการ

OMODA & JAECOO สร้างนิยามใหม่ของตลาดรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดโลก พร้อมปฏิวัติด้านระยะทางการขับขี่

ด้วยความตั้งใจให้เห็นถึงสมรรถนะของ JAECOO 7 SHS ในการขับขี่ที่สามารถขับได้ไกล จึงถูกพิสูจน์ด้วยการจัดกิจกรรมการขับขี่โกลบอลซุเปอร์ไฮบริดมาราธอน นับถึงปัจจุบัน รถยนต์รุ่น JACOO 7 SHS บรรลุเป้าหมายการขับขี่ตามกิจกรรมซุเปอร์ไฮบริดมาราธอนแล้วใน 16 ประเทศ โดยในประเทศไทยได้มีการเข้าร่วมซุปเปอร์ไฮบริดมาราธอน สามารถวิ่งได้ถึง 1,433 กิโลเมตร รวมครบสะสมระยะทางได้กว่า 1 แสนกิโลเมตร ตามสภาพการทดสอบบนท้องถนนจริง เบื้องหลังระยะทางที่เยี่ยมยอดนี้คือเทคโนโลยีระบบซุปเปอร์ไฮบริด Super Hybrid System (SHS) ซึ่ง OMODA & JAECOO เป็นผู้นำของโลกในตลาดปลั๊กอินไฮบริด ที่จะสร้างนิยามใหม่ของการเดินทางด้วยประสิทธิภาพที่เหนือกว่า อัตราการใช้พลังงาน และนวัตกรรม

ในฐานะโซลูชั่นพลังงานใหม่ที่ดีที่สุดของโลก เทคโนโลยี Super Hybrid System (SHS) เกิดจากการผสาน 3 แกนหลักอันล้ำหน้าในอุตสาหกรรมมาสู่หนึ่งแพลตฟอร์ม ได้แก่ เครื่องยนต์ไฮบริดแบบเฉพาะ (DHE) 1.5 ทีดีจีไอรุ่นที่ 5 ที่ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้า สำหรับการวิ่งด้วยไฟฟ้า และ 240 แรงม้า สำหรับการวิ่งด้วยน้ำมัน ระบบส่งกำลังไฮบริดต่อเนื่องแบบอัจฉริยะ (DHT) และแบตเตอรี่ประสิทธิภาพสูงสำหรับเครื่องยนต์ไฮบริดโดยเฉพาะ การผสานเทคโนโลยีเหล่านี้ช่วยให้รถยนต์ JAECOO 7 SHS มีประสิทธิภาพด้านการระบายความร้อนดีขึ้นร้อยละ 44.5 มีอัตราการใช้พลังงานน้ำมันและพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ที่ต่ำที่ 3.1 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร และรองรับการขับขี่โดยใช้พลังงานไฟฟ้าได้ไกลถึง 151.6 กิโลเมตร หรือใช้ขับขี่ไปทำงานและกลับบ้านนานประมาณ 1 สัปดาห์จากการประจุไฟเพียงครั้งเดียว นอกเหนือไปจากอัตราการใช้พลังงานที่ต่ำ เทคโนโลยีซุเปอร์ไฮบริดยังมีเสียงการทำงานเงียบเทียบเท่ารถพลังงานไฟฟ้า มีอัตราเร่งดี สร้างนิยามใหม่ของการขับขี่รถยนต์ไฮบริดให้เป็นประสบการณ์ที่เหนือข้อจำกัด

“เราพร้อมจะก้าวไปข้างหน้าอย่างเต็มกำลังแล้ว”

ในปี 2025 OMODA & JAECOO จะดำเนินการตามกลยุทธระดับสากลสำหรับรถยนต์พลังงานใหม่ เสริมสร้างขีดความสามารถทางการแข่งขันด้านเทคโนโลยีโดยมีระบบ Super Hybrid System (SHS) เป็นแกนกลาง และนำเสนอรถยนต์ที่ใช้ระบบ Super Hybrid System (SHS) ใหม่ตลอดทั้งปีนี้เพื่อเติมเต็มกลุ่มผลิตภัณฑ์รถยนต์พลังงานใหม่อย่างต่อเนื่อง ในขณะเดียวกัน ได้นำเสนอรถยนต์รุ่นใหม่อีก 2 รุ่นตามกลยุทธก้าวไปสู่ระดับโลก คือรถยนต์รุ่น OMODA C7 SHS และ JAECOO 5 EV ที่จะวางจำหน่ายในช่วงเวลาหลังจากนี้ รถยนต์ทั้ง 2 รุ่นนี้จะเป็นกลจักรสำคัญเพื่อสร้างการเติบโตไปอีกขั้น

นอกเหนือไปจากนี้ จากการประกาศกลยุทธ์ในงาน Shanghai Auto Show 2025 ทาง Chery และ OMODA and JAECOO ยังเตรียมจัดงานนำเสนอเทคโนโลยีไฮบริดในประเทศไทย วันที่ 15 พฤษภาคมนี้ โดยรายละเอียดของงานจะประกาศในโอกาสต่อไป