Search
Close this search box.

ISUZU MU-X (RS) รถสำหรับ FAMILY

ISUZU MU-X (RS) เป็นไลน์อัพใหม่ล่าสุดที่ไม่มีที่ไหนมาก่อน เป็นรถดีไซน์ใหม่ ใส่ออฟชั่นต่างๆมาให้เยอะ มีไฮไลท์อย่างกล้อง 360 องศา สามารถกดจากพวงมาลัยได้ กล้องภาพชัดมาก ดูได้หลายมุม ทั้งด้านหน้า ด้านข้าง หรือ 3 มิติ แสดงรายละเอียดได้ชัดแจ๋วอย่างรอยแตกพื้นถนนเห็นได้ชัดมาก

ไฮไลท์อีกอย่างคือพวงมาลัยไฟฟ้าที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจนเมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นก่อนที่ไม่ได้เป็นแบบไฟฟ้า โดยเฉพาะช่วงออกตัวไม่ได้ใช้ความเร็วสูงพวงมาลัยไฟฟ้าจะเบามือควบคุมง่าย ต่างจากเดิมที่ไม่ใช่ระบบไฟฟ้าจะรู้สึกหนักกว่า

ถ้าขับด้วยความเร็วประมาณ 30 – 60 กิโลเมตร / ชั่วโมง พวงมาลัยไฟฟ้าให้ความรู้สึกว่ามีน้ำหนักมากขึ้น แต่ก็ยังรู้สึกเบาอยู่และถ้าขับด้วยความเร็วสูงประมาณ 90 กิโลเมตร / ชั่วโมง ขึ้นไปบอกเลยว่าการควบคุมพวงมาลัยที่เป็นแบบไฟฟ้านี้จะเห็นผลได้ชัดเจนควบคุมได้ดีและง่ายไม่ได้รู้สึกเบาหวิว น้ำหนักการควบคุม ไม่ว่าจะเลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวา พวงมาลัยไฟฟ้าของรถคันนี้ตอบโจทย์มากๆลดความเหนื่อยล้าไปได้เยอะเลยทีเดียว

ISUZU MU-X (RS) มีเฉพาะเครื่องยนต์ดีเซล Ddi Blue Power 3.0L เท่านั้น ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ โดยเครื่องยนต์รุ่นนี้ตอบโจทย์การใช้งานทั่วไป

ส่วนอัตราการเร่งถ้าใครเคยขับ ISUZU เครื่องยนต์ 3.0 มาก่อน คันนี้ก็จะเป็นฟีลลิ่งเหมือนๆกัน ลองขับเริ่มที่ความเร็วประมาณ 75 กิโลเมตร / ชั่วโมง แล้วเหยียบไปถึง 120 กิโลเมตร / ชั่วโมง เมื่อเหยียบแป้นคันเร่งลึกพอประมาณนึงแล้ว ต้องรอรอบเครื่องยนต์นิดนึง เมื่อรอบเครื่องยนต์ได้ที่แล้วก็จะเร่งไปได้สบายๆครับ

สำหรับช่วงล่างถือว่าก็โอเคครับช่วงจังหวะเข้าโค้งลองขับความเร็วประมาณ 90 - 100 กิโลเมตร / ชั่วโมง รู้สึกว่าขับง่าย เอาอยู่สบายๆ สำหรับรถสไตล์ PPV

การเก็บเสียงภายในห้องโดยสารโดยรวมถือว่าใช้ได้มีแค่อย่างเดียวคือเสียงเครื่องยนต์เวลาเร่งจะได้ยินอยู่บ้างแต่ไม่ได้รู้สึกว่ามันติดขัดหรือรำคาญ

มุมมองหรือทัศนวิสัยในการขับขี่ไม่ว่าจะเป็นด้านหน้า ด้านข้าง หรือมองกระจกหลัง รู้สึกว่ากว้าง เห็นได้ชัดเจน และมีจุดที่น่าสนใจคือเรื่องระบบความปลอดภัย เป็นหนึ่งในไฮไลท์ อย่างกล้อง 360 องศา Blind Spot ระบบเตือนออกนอกเลน ซึ่งจากที่ได้ทดลองมา ถ้าไม่เปิดไฟเลี้ยว แล้วออกนอกเลน พวงมาลัยจะดึงกลับในเลน ถ้าทำงานร่วมกันทั้ง Blind Spot และระบบเตือนออกนอกเลนแล้ว ฟิลลิ่งจะรู้สึกว่าดึงรถกลับมาอยู่ในเลนนั้นหน่วงๆใช้ได้เลยครับ

จุดที่เปลี่ยนเพิ่มเติมเด่นๆอีกอย่างคือกระจังหน้าออกแบบดีไซน์ใหม่ เฉพาะรุ่น RS จะดูเด่นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว กันชนท้ายดีไซน์ใหม่ ล้ออัลลอยก็ดีไซน์ใหม่ ขนาดยาง 265/50 R20 และโทนภายนอกเป็นสีดำเงาอย่างเช่น กระจกด้านข้าง หลังคา

ภายในการออกแบบก็เปลี่ยนเช่นเดียวกันโทนจะเป็นสีดำตัดกับด้ายสีเขียวอย่างเช่นตรงแผงแดชบอร์ด แผงประตูด้านข้าง เบาะ และมีไฟ Ambient สีแดง หน้าจอคนขับดีไซน์ใหม่สปอร์ท ดูเท่มากยิ่งขึ้น หน้าจอกลางก็จะใหม่เช่นเดียวกัน สามารถเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย

และสุดท้ายมีการอัพเกรดระบบ ADAS เพิ่มเติมเข้าไปเป็นเจเนอเรชั่นใหม่ โดยเพิ่มมาทั้งหมดอีก 5 ฟังก์ชั่น เช่น Lane Keep Assist System, Traffic jam Assist, Emergency Lane Keeping, Lane Departure Warning, Lane Departure Prevention, Rear cross traffic Brake and Alert ซึ่งคันนี้จะอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานยูโร 5 แล้ว จะมีปุ่ม DPF ที่จะต้องกดตามระยะที่แจ้งเตือนบนหน้าจอคนขับด้วยหรือถ้าไม่แน่ใจเรื่องของการใช้งาน สามารถดูคู่มือ หรือดูเอกสารบนที่บังแดดฝั่งคนขับก็ได้เช่นกันครับ

ISUZU MU-X (RS) จะมีเฉพาะแค่เครื่องดีเซล 3.0L เท่านั้น มีให้เลือกอยู่แบบขับ 2 และขับ 4 ถ้าอยากรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ ต้องเลือกตัว RS เท่านั้น ส่วนรุ่นย่อยอื่นๆจะเป็นรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ จะมีให้เลือก 4 รุ่นย่อยตามนี้ครับ

รุ่น ACTIVE เครื่องยนต์ 1.9 ราคา 1,184,000 บาท
รุ่น ELEGANT เครื่องยนต์ 1.9 ราคา 1,419,000 บาท และ เครื่องยนต์ 3.0 ราคา 1,464,000 บาท
รุ่น ULTIMATE เครื่องยนต์ 1.9 ราคา 1,544,000 บาท และ เครื่องยนต์ 3.0 ราคา 1,589,000บาท
รุ่น RS เครื่องยนต์ 3.0 ขับเคลื่อน 2 ล้อ ราคา 1,659,000 บาท ส่วนขับเคลื่อน 4 ล้อ ราคา 1,759,000 บาท

สรุป ISUZU MU-X (RS) เรื่องการขับขี่โดยรวมถือว่าเป็นรถที่ดี มีพวงมาลัยไฟฟ้าแล้ว เพิ่มประสิทธิภาพการขับขี่ได้ดี แต่พวงมาลัยระบบไฟฟ้ามีเฉพาะรุ่น RS และ รุ่น ULTIMATE เท่านั้น

ส่วนรุ่นอื่นๆ เป็นพวงมาลัยเดิมครับสำหรับเครื่องยนต์เป็นเครื่องยนต์รุ่นเดิมทั้ง 1.9 หรือ 3.0 ก็ตาม ให้ประสิทธิภาพดีเหมือนเดิม ด้านออฟชั่นรุ่น RS เพิ่มมาเยอะพอสมควร เบาะแถวสองพื้นที่โอเค ซึ่งส่วนตัวผมใช้ MU-X อยู่แล้วรู้สึกว่านั่งสบาย เวลาจะเอน หรือนอน ค่อนข้างสะดวกครับ และเบาะแถวที่ 3 นั่งได้ระยะใกล้ๆ แต่ถ้านั่งนานเป็นชั่วโมง หรือรถติดนานๆแบบนี้มันจะไม่ค่อยโอเคสักเท่าไหร่สำหรับผู้ใหญ่ แต่ถ้าเป็นเด็กอันนี้ไม่มีปัญหานั่งได้สบายๆ

และถ้าไม่ได้ใช้แถวที่ 3 ก็พับเบาะวางของได้เลยทำให้พื้นที่รถมีมากยิ่งขึ้น ส่วนระบบความปลอดภัยต่างๆ มีให้ครบ โดยเฉพาะรุ่น RS จะมีกล้อง 360 องศา เป็นต้น และยังมีชุดแต่งต่างๆ รอบคันสีดำ และล้ออัลลอยด์สีก็เข้ากันด้วย

สีของตัวรถจะมีให้เลือก 3 สี คือสีขาว สีดำ และสี EIGER GRAY OPAQUE ที่เป็นสีใหม่ ถ้าส่วนตัวผมจะเลือกสีขาวคันนี้เพราะสีตัดกับชุดแต่งได้ดีเลยครับ

ISUZUตระกูล MU-X นี้ไม่ว่าจะเป็นรุ่นไหนจัดว่าเป็นรถ FAMILY ที่น่าใช้อีกรุ่นนึงครับโดยเฉพาะเรื่องความประหยัด !