Search
Close this search box.

เปิดตัว OMODA C5 EV พร้อมประกาศราคา

โอโมดา แอนด์ เจคู ประเทศไทย เปิดราคา OMODA C5 EV อย่างเป็นทางการ พร้อมเปิดจองแล้ววันนี้ เตรียมส่งมอบคันแรกไตรมาส 3

ราคาเริ่มต้น รุ่น Long Range Plus ราคา 899,000 บาท
รุ่น Long Range Ultimate ราคา 949,000 บาท

เผยโฉม JAECOO 6 EV พรีเมียมเอสยูวี เวอร์ชันพวงมาลัยขวา ครั้งแรกในโลก! เสริมความมั่นใจด้วยบริการหลังการขายด้วยผู้จำหน่ายในประเทศ กว่า 40 สาขา และคลังอะไหล่พื้นที่กว่า 1,000 ตรม.

โอโมดา แอนด์ เจคู (ประเทศไทย) หรือ OMODA & JAECOO (Thailand) ภายใต้ Chery Automobile บริษัทด้านเทคโนโลยียานยนต์ชั้นนำระดับโลกสัญชาติจีน ที่ส่งออกรถยนต์ไปกว่า 80 ประเทศทั่วโลกเปิดตัวรถ OMODA C5 EV อย่างเป็นทางการในประเทศไทยด้วยราคา899,000บาท สำหรับรุ่น Long Range Plus และราคา 949,000บาท สำหรับรุ่นLong Range Ultimateพร้อมโปรโมชันและของสมนาคุณสุดพิเศษสำหรับลูกค้ากลุ่มแรกที่จองโดยในงานเปิดตัวเดียวกัน ยังได้เผยโฉมรถ JAECOO 6 EVออฟโรดพรีเมียมพลังงานไฟฟ้า 100% พวงมาลัยขวา รุ่นก่อนผลิตจริง (Pre-production) ครั้งแรกในโลกเพื่อให้ชาวไทยได้ยลโฉมรถรุ่นที่ทุกคนตั้งตาคอยก่อนใครก่อนเปิดราคาจริง พร้อมข้อเสนอพิเศษสำหรับผู้สนใจจองสิทธิ์วันนี้เตรียมรับมอบรถตั้งแต่ตุลาคมนี้เป็นต้นไป โดยงานนี้ได้รับเกียรติจากนางสาว ศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม นางสาวไพลิน เทียนสุวรรณ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และผู้แทนจากหน่วยงานรัฐบาลไทยเข้าร่วมอีกด้วยนอกจากนี้ โอโมดา แอนด์ เจคู (ประเทศไทย) ยังแสดงความเชื่อมั่นในศักยภาพการบริการหลังการขายของทั้งสองแบรนด์ ที่พร้อมให้บริการแก่ลูกค้าแบบครบวงจรผ่านผู้จำหน่ายOMODA & JAECOO ทั่วประเทศที่พร้อมให้บริการทั้ง25แห่ง และภายในปีนี้จะขยายถึงกว่า40แห่ง และยังพิสูจน์ความพร้อมด้านคลังอะไหล่บนพื้นที่กว่า 1,000 ตารางเมตร และบริการหลังการขายที่ครอบคลุมทั่วประเทศเพื่อสร้างความมั่นใจแก่ลูกค้าชาวไทยที่สนใจรถยนต์ของ OMODA & JAECOOทั้งนี้ รถไฟฟ้า OMODA C5 EV พร้อมให้ลูกค้าชาวไทยที่สนใจทดลองขับและจับจองเป็นเจ้าของได้แล้ววันนี้ ที่ผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการทั่วประเทศ ทั้ง 25สาขา

นายเฉิน ชุนชิง รองประธาน เชอรี่ อินเตอร์เนชันแนล กล่าวว่า “Chery Automobile ในฐานะบริษัทแม่ของโอโมดา แอนด์ เจคู (ประเทศไทย)มีประสบการณ์ด้านยานยนต์ระดับโลกมากว่า 27 ปี ที่ผลิตและจำหน่ายรถยนต์ไปยังกว่า 80 ประเทศทั่วโลก ขึ้นแท่นเป็นผู้ส่งออกรถยนต์นั่งส่วนบุคคล (passenger car) รายใหญ่ที่สุดของจีนด้วยศักยภาพและการพัฒนาที่ไม่หยุดนิ่งเราพร้อมเติมเต็มประสบการณ์ของผู้ขับขี่ให้รถยนต์เป็น “มากกว่ารถยนต์” และส่งมอบผลิตภัณฑ์และบริการที่ดีที่สุด และวันนี้ เราพร้อมแล้วที่จะส่งมอบประสบการณ์ระดับโลกเหล่านั้นแก่ลูกค้าชาวไทยอย่างเป็นทางการ ภายใต้แบรนด์ โอโมดา แอนด์ เจคู ซึ่งเป็นแบรนด์รถยนต์ที่เติบโตเร็วที่สุดในโลกการเข้ามาในประเทศไทยครั้งนี้ เรามุ่งส่งเสริมการพัฒนาพื้นที่และอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยให้ทัดเทียมกับมาตรฐานระดับโลก และพร้อมเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้าชาวไทย”

นายฉี เจี๋ย ประธาน บริษัท โอโมดา แอนด์ เจคู (ประเทศไทย) จำกัดกล่าวว่า “โอโมดา แอนด์ เจคู (ประเทศไทย) มุ่งมั่นที่จะเสริมสร้างธุรกิจที่แข็งแกร่งและตั้งใจสร้างการเติบโตที่ยั่งยืนในประเทศไทยผ่านการร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ พันธมิตร และผู้แทนจำหน่ายภาคเอกชนต่างๆในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศไทย โดย โอโมดา แอนด์ เจคู (ประเทศไทย)มีสำนักงานใหญ่อย่างเป็นทางการที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งตั้งอยู่ ณ อาคารวัน แบ็งค็อกพร้อมด้วยผู้บริหารและทีมงานคนไทยที่เข้าใจความต้องการของลูกค้าคนไทยอย่างแท้จริงเราได้ตั้งศูนย์อบรม (Training center) ศูนย์ตรวจสอบคุณภาพรถยนต์ก่อนส่งมอบ (PDICenter) และคลังอะไหล่บนเนื้อที่กว่า 1,000 ตารางเมตรที่พร้อมให้บริการตั้งแต่สิงหาคมนี้หรือก่อนส่งมอบรถยนต์คันแรกของเราถึงมือผู้ขับขี่ชาวไทยเรายังมีแผนขยายศูนย์บริการและผู้จำหน่ายมากถึง40แห่งทั่วประเทศภายในสิ้นปีไม่เพียงเท่านี้ ภายในกลางปี2568โอโมดา แอนด์ เจคู (ประเทศไทย) จะเริ่มดำเนินการผลิตและประกอบรถยนต์ในประเทศไทยเพื่อจำหน่ายทั้งในประเทศและส่งออกไปยังภูมิภาคอาเซียน ออสเตรเลีย และตะวันออกกลางต่อไป”

ด้าน นายพิชญุตม์ วงศ์พัฒนาสิน รองประธานฝ่ายขายการตลาดและเครือข่ายผู้จำหน่ายบริษัท โอโมดา แอนด์ เจคู (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่าสำหรับรถ OMODA C5 EV จะเป็นรถไฟฟ้า 100% รุ่นแรกจากแบรนด์ โอโมดาแอนด์เจคูที่เข้ามาทำตลาดในประเทศไทย โดยแบ่งออกเป็นสองรุ่นย่อย ได้แก่ รุ่น OMODA C5 EV Long Range Plusที่มีสี Lunar White, Space Black และ Mercury Greyราคา 899,000บาท และรุ่น OMODA C5 EV Long Range Ultimateที่มีสี Lunar White(Black Roof), Space Black, Mercury Grey, Volcanic Redและ Mint Green (Black Roof) ราคา 949,000บาท ยนตรกรรมที่ผสมผสานการออกแบบแห่งอนาคต เข้ากับ 17+1 เทคโนโลยีสุดอัจฉริยะADAS+DMS พร้อมทั้งฟังก์ชันความปลอดภัยและความสะดวกสบายแบบจัดเต็มพร้อมให้ประสบการณ์ที่เป็น ‘มากกว่ารถยนต์’

ข้อเสนอพิเศษสำหรับผู้ที่จองและรับรถ OMODA C5 EV ภายในวันที่ 31 ตุลาคม 2567 เฉพาะ 1,000 คันแรก*
1. การรับประกันครอบคลุมระยะเวลา 8 ปี หรือระยะทาง 200,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)*
o การรับประกันคุณภาพรถใหม่ (Warranty)
o การรับประกันระบบมอเตอร์ขับเคลื่อน (Driving motor system)
o การรับประกันแบตเตอรี่แรงดันสูง (High Voltage Battery)
2. บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน (Roadside Assistance) 5 ปี ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่จำกัดจำนวนครั้ง*
3. ฟรี! ประกันภัยชั้น 1 เป็นระยะเวลา 1 ปี*
4. ฟรี! โฮมชาร์จเจอร์ พร้อมติดตั้ง*
5. ดอกเบี้ยพิเศษ เริ่มต้น 1.68%*
6. ของสมนาคุณสุดพิเศษ OMODA | Earthology Studio*
7. สินค้าไลฟ์สไตล์ให้ลูกค้าเลือกได้ 1 อย่าง ระหว่าง Apple Watch SE GPS 44 mm หรือ Harman Kardon Aura Studio 4 หรือ บัตรชาร์จไฟฟ้า มูลค่า 10,000 บาท*

ขณะเดียวกัน ในงาน โอโมดา แอนด์ เจคู (ประเทศไทย) ยังได้เผยโฉม JAECOO 6EV รถออฟโรดพรีเมียมพลังงานไฟฟ้า 100% เวอร์ชันพวงมาลัยขวา รุ่นก่อนผลิตจริง (Pre-production) ครั้งแรกในโลก ที่ผสมผสานความคลาสสิกเข้ากับเทคโนโลยียนตรกรรม ภายใต้คอนเซ็ปต์ “OFF-ROAD TRENDY” อัดแน่นไปด้วยพลังสุดแข็งแกร่งและสุนทรียะที่งดงาม ตัวถังผลิตจากอะลูมิเนียมทั้งหมด พร้อมด้วยแบตเตอรี่ลิเธียมฟอสเฟต ระยะยื่นหน้าและหลังที่สั้นทำให้การขับขี่แบบออฟโรดมีความคล่องตัวสูงไฟหน้าแบบ “Headlamp Matrix Adaptive” สะดุดตาส่องได้กว้างและไกลกว่า กับโหมดการขับขี่6 แบบที่ตอบโจทย์ทั้งการขับขี่ในเมืองและการขับขี่แบบสมบุกสมบันมี 2 รุ่นด้วยกัน ได้แก่ รุ่น JAECOO 6 EV Long Range 2WDราคาคาดการณ์1,099,000บาท และรุ่น JAECOO 6 EV Long Range 4WDราคาคาดการณ์1,249,000 บาทผู้ที่สนใจสามารถจองสิทธิ์ได้แล้ววันนี้และสำหรับ 1,000 คนแรก ที่จองสิทธิ์ตั้งแต่วันนี้และรับมอบรถก่อน 30 พฤศจิกายน 2567 จะได้รับนาฬิกา Garmin Forerunner 165รุ่นพิเศษที่ผลิตเฉพาะลูกค้าคนไทยกลุ่มแรกเท่านั้น

ข้อเสนอพิเศษสำหรับผู้ที่จองสิทธิ์ JAECOOO 6 EV และรับรถภายในวันที่ 30พฤศจิกายน2567 เฉพาะ 1,000 คันแรก*
1. การรับประกันครอบคลุมระยะเวลา 8 ปี หรือระยะทาง 200,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)*
o การรับประกันคุณภาพรถใหม่ (Warranty)
o การรับประกันระบบมอเตอร์ขับเคลื่อน (Driving motor system)
o การรับประกันแบตเตอรี่แรงดันสูง (High Voltage Battery)
2. บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน (Roadside Assistance) 5 ปี ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่จำกัดจำนวนครั้ง*
3. ฟรี! ประกันภัยชั้น 1 เป็นระยะเวลา 1 ปี*
4. ฟรี! โฮมชาร์จเจอร์ พร้อมติดตั้ง*
5. นาฬิกา Garmin Forerunner 165รุ่นพิเศษ JAECOO X GARMIN

นางสาวสุชาดาชูสงค์ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและภาพลักษณ์องค์กรบริษัท โอโมดา แอนด์ เจคู (ประเทศไทย) จำกัดกล่าวเสริมว่า“วันนี้เรายังได้เปิดตัว 4EVE ศิลปินเกิร์ลกรุ๊ปแถวหน้าของเมืองไทยในฐานะพรีเซ็นเตอร์ของรถ OMODA C5 EV ซึ่งเป็นครั้งแรกของ 4EVE กับบทบาท Brand Presenter ของรถยนต์ การได้ 4EVE มาร่วมเป็นครอบครัวเดียวกันกับ โอโมดา แอนด์ เจคู (ประเทศไทย) ในครั้งนี้ จะช่วยตอกย้ำภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่มุ่งเน้นเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ และผู้หลงใหลในความทันสมัยของเทคโนโลยีอัจฉริยะ รวมถึงเพลิดเพลินไปกับความคิดสร้างสรรค์นอกกรอบ สำหรับกลุ่มผู้ขับขี่รุ่นใหม่นี้ รถไม่ได้เป็นเพียงยานพาหนะสำหรับการเดินทาง แต่ยังเป็นเครื่องบ่งบอกรสนิยม และรูปแบบการใช้ชีวิตกลุ่มผู้ขับขี่เจเนอเรชั่นใหม่E-LOHAS หรือ E-Lifestyle on Health and Sustainability ที่ให้ความสำคัญกับการมีชีวิตที่ดีควบคู่ไปกับสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืนเปลี่ยนสู่อนาคตอย่างมีสไตล์ นอกจากนี้ โอโมดา แอนด์ เจคู ประเทศไทย ยังร่วมมือกับEARTHOLOGY STUDIO แบรนด์ไลฟ์สไตล์ที่ขับเคลื่อนด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อต่อยอดเป้าหมายด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดย EARTHOLOGY STUDIOได้ร่วมออกแบบและผลิตชุดยูนิฟอร์มรักษ์โลกที่ผลิตจากเส้นใยพลาสติกรีไซเคิลให้แก่ที่ปรึกษาการขายของเราทั่วประเทศ ซึ่งชุดยูนิฟอร์มที่ประกอบไปด้วย เสื้อโปโล เสื้อแจ็คเก็ต และกางเกงคาร์โกแต่ละชุดเทียบเท่ากับการนำขวดพลาสติกเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิล40 ขวด หรือเทียบเท่าการลดการปล่อยคาร์บอนไดซ์ออกไซด์ 25 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์ (kgCO2)นอกจากจะช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมแล้ว ชุดยูนิฟอร์มของเรายังสะท้อนภาพลักษณ์แบรนด์แห่งอนาคต ในขณะเดียวกัน แบรนด์ JAECOO ได้ตอกย้ำภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่มุ่งเน้นเข้าถึงกลุ่มคนที่ชื่นชอบการใช้ชีวิตแบบแอคทีฟไลฟ์สไตล์ โดยเป็นสปอนเซอร์หลักของงาน Garmin Run Asia Series 2024 Thailand Half Marathonที่จะจัดขึ้นเดือนตุลาคมนี้และยังร่วมมือผลิตนาฬิกา Garmin รุ่นเอ็กซ์คลูสีฟJAECOO | GarminForerunner 165สำหรับผู้ขับขี่ชาวไทย 1,000 คนแรกอีกด้วยค่ะ”

SPECIFICATIONS รุ่น Long Range Plus และ รุ่น Long Range Ultimate
การขับเคลื่อนระบบไฟฟ้า กำลังมอเตอร์ไฟฟ้าสูงสุด 150 กิโลวัตต์ 204 แรงม้า แรงบิดสูงสุดจากมอเตอร์ไฟฟ้า 340 นิวตันเมตร ความจุพลังงานแบตเตอรี่ไฟฟ้าแรงสูง 61 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ระยะทางการขับเคลื่อน 505 กม. (มาตรฐาน NEDC) อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใช้เวลา 7.2 วินาที ความเร็วสูงสุด 172 กม./ชม. โหมดการขับขี่ ECO, Normal, Sport

มิติตัวถัง (กว้าง x ยาว x สูง) : 1,830 x 4,424 x 1,588 มม.
ระยะฐานล้อ : 2,630 มม
ขนาดล้อและยาง 215/55 R18

อุปกรณ์มาตรฐานภายนอก
• จานเบรกด้านหน้าพร้อมเจาะรูระบายความร้อน
• จานเบรกด้านหลัง
• ไฟหน้าแบบ LED
• ไฟส่องสว่างสำหรับขับขี่เวลากลางวันแบบ LED
• ไฟท้ายแบบ LED
• ไฟเลี้ยวด้านท้ายแบบวิ่ง (sequential) (เฉพาะรุ่น Long Range Ultimate)
• ฟังก์ชันไฟส่องนำทางหลังดับเครื่อง
• ไฟหน้าทำงานอัตโนมัติ
• ปุ่มปรับระดับไฟหน้า
• ระบบปรับไฟสูง ไฟต่ำ อัตโนมัติ
• ไฟตัดหมอกด้านหน้า
• ไฟเบรกดวงที่สามแบบ LED
• สัญญาณแจ้งเตือนเมื่อหยุดรถกรณีฉุกเฉิน
• ไฟตัดหมอกหลัง
• ไฟส่องสว่างที่พื้นติดตั้งบริเวณกระจกมองข้าง (เฉพาะรุ่น Long Range Ultimate)
• เสาอากาศแบบครีบฉลาม
• มือเปิดประตูสีเดียวกับตัวรถพร้อมตกแต่งด้วยโครเบียม
• ตกแต่งภายนอกแบบสปอร์ตแพ็กเกจ
• สปอยเลอร์ท้ายรถ
• ตะขอเกี่ยวลากจูงด้านหน้า
• หลังคาซันรูฟ (เฉพาะรุ่น Long Range Ultimate)
• ราวหลังคา (เฉพาะรุ่น Long Range Ultimate)
• ตกแต่งบริเวณขอบประตูด้านบอกด้วยสีดำด้าน
• ตกแต่งบริเวณขอบประตูด้านนอกด้วยสีดำเงา (เฉพาะรุ่น Long Range Ultimate)

อุปกรณ์มาตรฐานภายใน
• ก้านคันเกียร์บริเวณคอพวงมาลัย
• ลิ้นชักเก็บของด้านหน้า
• ไฟเรืองแสงล้อมรอบห้องโดยสาร 64 เอดสี
• ไฟส่องสว่างบริเวณที่เก็บสัมภาระ
• พวงมาลัยหุ้มหนัง
• พวงมาลัยมัลติฟังก์ซัน
• รองรับผู้โดยสารจำนวน 5 ที่นั่ง
• เบาะนั่งคู่หน้าแบบสปอร์ต
• เบาะนั่งผู้ขับขี่ปรับระดับด้วยระบบไฟฟ้า 6 ทิศทาง
• เบาะนั่งผู้ขับขี่พร้อมฟังก์ชันระบายอากาศ
• เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับระดับด้วยระบบไฟฟ้า 4 ทิศทาง
• เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าพร้อมฟังก์ชันระบายอากาศ
• กระเป๋าเก็บสิ่งของด้านหลังเบาะคู่หน้า
• เบาะนั่งด้านหลังแบบพับได้ 60/40
• เบาะนั่งด้านหลัง พร้อมหมอบรองศีรษะ 3 ตำแหน่ง
• ที่วางแก้วน้ำและที่เท้าแขนบริเวณเบาะนั่งด้านหลัง
• ที่บังแดดและกระจกแต่งหน้า
• ระบบเปิด-ปิดบานประตูท้ายไฟฟ้า
• ที่เท้าแขนพร้อมซ่องเก็บของ
• ระบบปรับอากาศแยกอิสระ 2 โซน
• ระบบกุญแจแบบ Keyless
• ระบบเปิดกระจกหน้าต่างด้วยรีโมท
• ระบบสั่งการทำงานระบบปรับอากาศผ่านรีโมท
• กระจกหน้าต่างควบคุมด้วยระบบ one-touch
• กระจกหน้าต่างคู่หน้าแบบลดเสียงรบกวนภายนอก (เฉพาะรุ่น Long Range Ultimate)
• กระจกแบบ privacy glass (เฉพาะรุ่น Long Range Ultimate)
• กระจกบังลมด้านหลัง พร้อมลวดละลายฝ้า
• ฟังก์ชันปรับกระจกมองข้างด้วยระบบไฟฟ้า
• สัญญาณไฟเลี้ยวบริเวณกระจกมองข้าง
• กระจกมองข้างพับเก็บได้ด้วยระบบไฟฟ้า
• กระจกมองข้างแบบไล่ฝ้า
• กระจกมองหลังปรับลดแสงสะท้อนอัตโนมัติ
• จอแสดงผลแบบจอกว้างขนาด 24.6 นิ้ว
• รองรับการเชื่อมต่อบลูทูธ
• ฟังก์ชันเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือ Apple CarPlayTM llaะ Android Auto
• เครื่องเสียงมาตรฐาน พร้อมลำโพง 6 ตำแหน่ง (เฉพาะรุ่น Long Range Plus)
• เครื่องเสียง SONY พร้อมลำโพง 8 ตำแหน่ง (เฉพาะรุ่น Long Range Ultimate)
• ช่องเสียบ USB หน้าและหลัง
• ฟังก์ชันชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย 50 วัตต์

OMODA C5 EV Long Range Plus มีให้เลือก 3 สี : Lunar white, Space black, Mercury grey

OMODA C5 EV Long Range Ultimate มีให้เลือก 5 สี : Lunar white - black roof, Space black, Mercury grey, Volcanic red - black roof, Mint green - black roof

สำหรับผู้สนใจสามารถสัมผัสประสบการณ์การขับขี่OMODA C5 EV และจองรถทั้ง 2 รุ่นได้แล้ววันนี้ ที่ผู้จำหน่ายทั่วประเทศของOMODA & JAECOO ทั้ง 25แห่ง ครอบคลุมทุกภูมิภาค ทั่วประเทศไทย หรือพบกับ OMODA C5 EV และ JAECOO 6 ได้ที่ เซ็นทรัลลาดพร้าว ชั้น G โซน B ในวันที่ 22–28 สิงหาคมนี้ พร้อมมั่นใจได้กับบริการหลังการขายที่ครอบคลุมครบวงจรของโอโมดา แอนด์ เจคู (ประเทศไทย) ต่อไป