Search
Close this search box.

10 รถยนต์ไฟฟ้า EV น่าซื้อ Motor Show 2023 สมรรถนะเบื้องต้นวิ่งไกลแค่ไหน รุ่นไหนราคาเท่าไหร่ !!

งาน Motor Show 2023 หรือชื่อเต็มๆว่า Bangkok International Motor Show ครั้งที่ 44 ค่ายรถยนต์เกือบทุกค่ายจากทุกมุมโลก พาเหรดเปิดตัวรุ่นใหม่อย่างเป็นทางการ โดยทะยอยเปิดตัวอย่างเป็นทางการไปแล้ว ตั้งแต่ก่อนหน้างาน มอเตอร์โชว์ โดยเริ่มกันตั้งแต่ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ถึง มีนาคม บางรายจะเปิดตัวภายในงานมอเตอร์โชว์เป็นครั้งแรก ซึ่งมีทั้งรถยนต์สันดาปล้วน รถยนต์ลูกผสม ปลั๊กอินไฮบริด PHEV และรถยนต์พลังไฟฟ้า 100% หรือรถ EV ซึ่งรถยนต์ไฟฟ้าปีนี้ ถือว่าแรงมาก มีนำมาโชว์เป็นรถต้นแบบ เกือบทุกเซกเมนท์ รวบรวมรุ่นไฮไลต์เด็ดที่จะเปิดตัว และน่าซื้อ มาให้ยลโฉมกัน

🚩 MG ES ราคา 959,000 บาท ระยะวิ่ง 412 กม.
MG เปิดสเปก NEW MG ES รถไฟฟ้า Station Wagon ใหม่ 5 ประตู 5 ที่นั่ง พร้อมเปิดราคาวันที่ 20 มีนาคม นี้ ที่งาน มอเตอร์โชว์ 2023 ถือเป็นรุ่นปรับปรุงโฉมของ MG EP ให้มีความหรูหรามากขึ้น อุปกรณ์ความปลอดภัยครบถ้วนขึ้น แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ขึ้น เรียกได้ว่าแก้ไขข้อบกพร่องของ MG EP ตามเสียงเรียกร้องของผู้ที่สนใจได้เกือบทั้งหมด และปรับเปลี่ยนพื้นที่ให้มีความจุได้สูงสุด 1,367 ลิตร
ด้านล่างเป็นช่องดักอากาศเพื่อช่วยระบายความร้อนให้กับชุดแบตเตอรี่ ชุดไฟหน้าเป็นทรงแคบลงคาดยาวตลอดแนวแทนกระจังหน้า โดยเป็นโคมโปรเจกเตอร์หลอด LED และไฟวิ่งกลางวันเป็นหลอด LED เรืองแสง ตรงกลางมีช่องชาร์จไฟ ไฟท้ายเดินเส้นไฟ LED ทรง Y-Shaped ตกแต่งด้วยคิ้วโครเมียม และล้ออัลลอยให้มาเป็นลาย V-Shaped ภายในดูทันสมัยขึ้น มีลูกเล่นมากขึ้น มาตรวัดดิจิทัลใหม่ขนาด 7 นิ้ว และจอมัลติฟังก์ชันขนาด 10.25 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อสมาร์ตโฟน รวมถึงระบบ iSmart ติดตั้งเกียร์ไฟฟ้าชนิดปุ่มหมุนกับเบรกมือไฟฟ้า

MG ES ขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด 177 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 280 นิวตันเมตร จ่ายไฟด้วยแบตเตอรี่ขนาด 51 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ขับเคลื่อนล้อหน้า ระยะทางวิ่งสูงสุด 412 กิโลเมตร ต่อการชาร์จไฟ 1 ครั้ง (NEDC) รองรับการชาร์จแบบปกติได้สูงถึง 11 kW นั่นหมายความว่า การชาร์จจาก 0-100% สามารถทำได้ภายในระยะเวลาที่ต่ำกว่า 5 ชั่วโมง ระบบความปลอดภัยขั้นสูงที่สามารถรองรับการขับขี่ในทุกรูปแบบ รวมถึงระบบสั่งการและตรวจสอบสถานะของตัวรถผ่าน iSmart Lite อีกด้วย

✴️✴️ MG ES เปิดราคาจำหน่ายที่ 959,000 บาท

🚩 MG 4 ราคา 869,000 - 969,000 บาท เคลมระยะวิ่ง 425 กม.
New MG4 รถแฮทช์แบ็ค 5 ประตู พลังงานไฟฟ้า 100% มีระบบขับเคลื่อนล้อหลัง ขุมพลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด 170 แรงม้า แรงบิด 250 นิวตันเมตร แบตเตอรี่เทคโนโลยี RUBIK’s CUBE BATTERY ขนาดความจุ 51 kWh สามารถวิ่งในระยะทาง 425 กิโลเมตร* ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ตามมาตรฐาน NEDC หน้าจอแสดงผล DUAL SCREEN แบบดิจิทอลขนาด 7 นิ้ว และหน้าจอสีระบบสัมผัสขนาด 10.25 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อมัลทิมีเดีย APPLE CAR PLAY และ สมาร์ทโฟนระบบ ANDROID พร้อมช่องเชื่อมต่อ USB TYPE A และ TYPE C

ผสานการกระจายน้ำหนักแบบสมมาตรที่ 50:50 พร้อมตัวถังมีจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำ (LOW CENTRE OF GRAVITY) ช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระ แมคเฟอร์สันสตรัทและด้านหลังอิสระแบบ 5-Link Suspension พร้อมระบบโครงสร้างตัวถังนิรภัย FSF (Full Space Frame) และ Advanced Synchronized Protection System 26 ระบบ รองรับการชาร์จไฟฟ้า AC Type 2 และ DC ในแบบ Quick Charge DC สูงสุด 88 kW AC 6.6 kW 0 - 100% ในเวลา 8.5 ชั่วโมงและ DC 88 kW 10 - 80% ในเวลา 35 นาที มาพร้อม 2 รุ่นย่อย ได้แก่

✴️✴️ New MG4 Electric D ราคา 869,000 บาท
✴️✴️ New MG4 Electric X ราคา 969,000 บาท

🚩 Neta V ราคา 549,000 บาท เคลมระยะวิ่ง 384 กม.
รถยนต์ Neta V ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังไฟฟ้า 100% จากมอเตอร์ไฟฟ้า Permanent Magnet Synchronous ประสิทธิภาพสูงที่มีกำลังสูงสุดถึง 95 แรงม้า พร้อมด้วยแรงบิดสูงสุด 160 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์ไฟฟ้า 1 สปีด ขับเคลื่อนล้อหน้า สมรรถนะของรถ ทำอัตราเร่งจาก 0 – 50 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.9 วินาที ทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 110 กม./ชม. และมีระยะทางขับขี่สูงสุด 384 กิโลเมตรต่อการชาร์จไฟเต็ม 1 ครั้งตามมาตรฐาน NEDC
แบตเตอรี่ของรถยนต์ Neta V เป็นชนิด Ternary Lithium ขนาดความจุ 38.54 kWh ติดตั้งอยู่บริเวณใต้ท้องรถ มาพร้อมประสิทธิภาพการชาร์จไฟที่ยอดเยี่ยม ชาร์จไฟปกติแบบ AC รองรับกำลังไฟสูงสุด 6.6 kW ใช้เวลาชาร์จจาก 0 – 100% ภายใน 8 ชม. การชาร์จเร็วแบบ DC Fast Charge รองรับกำลังไฟสูงสุด 45 kW ใช้เวลาชาร์จจาก 30 – 80% ภายใน 30 นาที ในส่วนของช่องชาร์จไฟ AC เป็นแบบ Type 2 ส่วนช่องชาร์จ DC เป็นแบบ CCS Combo นอกจากนี้ยังมีระบบ V2L (Vehicle to Load) สามารถจ่ายไฟจากรถให้อุปกรณ์ภายนอกได้สูงสุด 3.3 kW

รถยนต์ Neta V จะมีประสิทธิภาพการใช้พลังงานและการชาร์จไฟที่ดีแล้ว เทคโนโลยีแบตเตอรี่ของรถยังมีความล้ำสมัยและปลอดภัยสูงสุด ติดตั้งระบบจัดการอุณหภูมิแบตเตอรี่ HEPT 3.0 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพความทนทานในภาวะอุณหภูมิต่ำ ช่วยให้การจ่ายไฟเป็นไปอย่างสมบูรณ์และมีอายุแบตเตอรี่ที่ยาวนานเหมือนในสภาวะอุณหภูมิปกติ

✴️✴️ Neta V ราคา 549,000 บาท (ราคาอย่างเป็นทางการหลังได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ)

🚩 BYD Dolphin ราคา 799,999 บาท เคลมระยะวิ่ง 410 กม.
Dolphin รถยนต์ไฟฟ้า 100% ถูกสร้างบนพื้นฐานรถยนต์ไฟฟ้า BYD e platform 3.0 มาในสไตล์ตัวถังแบบแฮทช์แบ็กหน้าตาคล้ายโลมา สมชื่อ ด้านหน้าดูเท่ด้วยชุดไฟหน้า LED ในโคมโปรเจกเตอร์ ล้อมด้วยไฟ DayTimeRunningLight กระจังหน้าแบบปิดเติมลูกเล่นด้วยการพิมพ์ลายด้านใน ด้านข้างมีเส้นสายที่เฉียบคมแปลกตา สวยงามด้วยการใช้คู่สีแบบทูโทน ลูกเล่นการเดินเส้นไฟท้าย LED ไขว้สลับกันไปมา ส่วนล้ออัลลอยที่ให้มีทั้งขนาด 16 และ 17 นิ้ว ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย
ภายในของ DOLPHIN น่าสนใจมากครับ โดยรวมดูน่ารักด้วยเส้นสายโค้งมนต่อเนื่อง อิงจากรูปทรงของโลมา ชุดแผงหน้าปัดคาดแถบสีเงินพร้อมช่องแอร์ทรงกลม มือจับประตูออกแบบคล้ายครีบของโลมา พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นแบบ 3 ก้าน ทรง D Shape จออินโฟเทนเมนต์ ขนาด 10.1 นิ้ว และ 12.8 นิ้ว ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย หลังคา Panoramic พร้อมม่านกันแดด เบาะนั่งเป็นแบบสปอร์ตทรง Bucket Seat

BYD Dolphin ขุมพลังขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า Permanent Magnet Synchonous Motor พละกำลังสูงสุด 177 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 290 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ BYD Blade Battery (LFP) ขนาด 44.9 kWh ขับเคลื่อนล้อหน้า Front-Wheel Driveอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 7.9 วินาที Top Speed ความเร็วสูงสุด 160 กิโลเมตร/ชั่วโมง ชาร์จเต็ม 100% วิ่งได้ระยะทางสูงสุด 410 กิโลเมตรต่อชาร์จ (ตามมาตรฐาน NEDC) รองรับการชาร์จ 800 Volt Technology กระแสสลับ AC รองรับสูงสุด 7 kW ใช้เวลา 0-100% ภายใน 6 ชั่วโมง 25 นาที และกระแสตรง DC Fast Charging รองรับสูงสุด 60 kW จาก 30-80% ภายใน 30 นาที
เรื่องราคาจำหน่ายในไทย ภาครัฐได้ปรับลดภาษีอากรนำเข้า 40% ลดภาษีสรรพสามิต จาก 8 % เหลือ 2 % (ปี 2565 - 2568) เงินอุดหนุน 70,000 บาท สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้แบทเตอรีต่ำกว่า 30 กิโลวัตต์ชั่วโมง เงินอุดหนุน 150,000 บาท สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้แบทเตอรีสูงกว่า 30 กิโลวัตต์ชั่วโมง เป็นผลทำให้ราคารถยนต์ไฟฟ้าถูกลง

✴️✴️ BYD Dolphin Standard Range เปิดจองในงาน มอเตอร์โชว์ 2023 คาดราคา 799,999 บาท

🚩 Ora Good Cat ราคา 828,500 - 1,286,000 บาท เคลมระยะวิ่ง 400 - 500 กม.
ORA Good Cat เป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ที่เข้ามาสร้างมาตรฐานใหม่และปลุกกระแสความนิยมให้กับตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย มาพร้อมกับความครบครันทั้งด้านฟังก์ชันล้ำสมัยและดีไซน์ที่สวยงาม ภายใต้คอนเซ็ปต์ Retro Futuristic สะท้อนตัวตนอันเป็นเอกลักษณ์เมื่ออยู่บนท้องถนน พร้อมด้วยอุปกรณ์เทคโนโลยี มีทั้ง ทั้งเวอร์ชั่นธรรมดา และ Good Cat GT
ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Permanent Magnet Synchronous Motor ให้กำลังสูงสุด 105 กิโลวัตต์ หรือ 143 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 210 นิวตันเมตร (สำหรับรุ่น 400 PRO และ 500 ULTRA) และกำลังสูงสุด 171 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร (สำหรับรุ่น ORA Good Cat GT) ORA Good Cat โดดเด่นและเหนือกว่ารถยนต์ไฟฟ้า 100% ในระดับเดียวกัน ขับเคลื่อนล้อหน้า ความเร็วสูงสุด Top Speed 152 km/h ระบบเบาะนวดไฟฟ้า (Massage Seat) ระบบช่วยจอดรถอัตโนมัติ 3 รูปแบบ ระบบกรองอากาศ PM2.5 และเทคโนโลยีสุดล้ำอื่น ๆ

Ora Good Cat แบตเตอรี่มีขนาด 2 ความจุ ให้เลือก Lithium-ion Phosphate (LFP) ขนาด 47.8 kWh วิ่งได้ระยะทางสูงสุด 400 km. (มาตรฐาน NEDC) Lithium-Ternary (NMC) ขนาด 63.1 kWh วิ่งได้ระยะทางสูงสุด 500 km. (มาตรฐาน NEDC) การชาร์จไฟฟ้า ไฟบ้าน กระแสสลับ AC รองรับการชาร์จสูงสุด 6.6 kW รุ่น 400km. ประมาณ 8 ชั่วโมง รุ่น 500km. ประมาณ 10 ชั่วโมง ไฟฟ้ากระแสตรง DC Fast Chager (0-80%) รองรับการชาร์จสูงสุด 60 kW รุ่น 400km. ประมาณ 45 นาที รุ่น 500km. ประมาณ 60 นาที

✴️✴️ ราคาอย่างเป็นทางการ ORA Good Cat 2023
- Good Cat PRO 400km. 828,500 บาท
- Good Cat ULTRA 500km. 959,000 บาท
- Good Cat GT 1,286,000 บาท

🚩 BYD Atto3 ราคา 1.099 - 1.199 ล้านบาท เคลมระยะวิ่ง 410 - 480 กม.
ATTO 3 รถยนต์ SUV 5 ประตูที่ฮ๊อตมากในตอนนี้ด้วยราคา ขนาดและเป้นรถยกสูงบวกกับออปชั่นจัดเต็ม ที่ทำให้ใครได้เห้นแล้วต้องสนใจแม้ยังไม่ได้ลองขับ BYD ATTO 3 ใช้แพลตฟอร์มแห่งอนาคต e-Platform 3.0 และยังมีเทคโนโลยี Blade Battery เอกสิทธิ์เฉพาะของ BYD และระบบความปลอดภัยเพียบ ด้วยระยะทางวิ่งสุงสุด 400 กว่ากิโลเมตร นับว่าเพียงพอใช้งานในเมืองหรือชานเมืองแล้ว

BYD Atto3 มีในเลือก 2 รุ่นคือ Standard Range แบตเตอรี่ขนาด 49.92 kWh และ DC Charging Port CCS 2 รองรับ 70 kW ระยะทางสูงสุด 410 กิโลเมตรต่อการชาร์จ (NEDC) และ Extend Range ความจุ 60.48 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมง จากมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 201 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 310 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0 - 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในเวลา 7.3 วินาที ระยะทางวิ่ง 480 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC และยังรองรับหัวชาร์จ แบบ AC Type 2 และแบบ DC - CCS 2 สูงสุด 80kW มีระบบ V2L (Vehicle To Load) จ่ายไฟฟ้าได้สูงสุด 2.2 kW

✴️✴️ BYD ATTO 3
Standard Range ราคา 1,099,900 บาท
รุ่น Extend Range ราคา 1,199,900 บาท

🚩 BMW iX3 ราคา 3.589 ล้านบาท เคลมระยะวิ่ง 460 กม.
ขุมพลัง ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า Synchronous Electric Motor 1 ตัว พละกำลังสูงสุด 286 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร เกียร์อัตโนมัติ Single Speed with fixed ratio ตัวเลขจากโรงงาน อัตราเร่ง 0-100 km/h ภายใน 6.8 วินาทีอัตราเร่งแซง 80-120 km/h ภายใน 2.5 วินาที Top Speed ความเร็วสูงสุด 180 km/h (locked)
แบตเตอรี่ Lithium-ion ติดตั้งบนพื้นตัวรถ ความจุ 74.0 kWh 232 Ah 400V รองรับการชาร์จ AC กระแสสลับ และ DC กระแสตรง หัวชาร์จแบบ CCU (Combined Charging Uint)
การชาร์จไฟฟ้า Charging กระแสสลับ AC 1 phase Wallbox รองรับสูงสุด 7.4 kW ใช้เวลาชาร์จจาก 0% ประมาณ 10 ชั่วโมง กระแสสลับ AC 3 phase Wallbox รองรับสูงสุด 11 kW ใช้เวลาชาร์จจาก 0% ประมาณ 7.5 ชั่วโมง กระแสตรง DC Fast Charging รองรับสูงสุด 150 kW ใช้เวลาชาร์จจาก 0-80% ประมาณ 34 นาที วิ่งได้ระยะทางสูงสุด 460 km. ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง (มาตรฐาน WLTP) หัวชาร์จแบบ Type 2 / CCS Combo

✴️✴️ BMW iX3 ราคา 3,589,000 บาท

🚩 Lexus RZ ราคา 3.87 ล้านบาท เคลมระยะวิ่ง 450 กม.
Lexus RZ 450e รถยนต์ไฟฟ้าอเนกประสงค์แบบ Crossover SUV ขนาดกลาง รถใหม่อีกหนึ่งรุ่นสำหรับกลุ่มรถยนต์พรีเมียม โดยวางตำแหน่งไว้เหนือกว่า Lexus UX 300e ใช้แพลตฟอร์มร่วมกับ Toyota bZ4X แต่พละกำลังและความหรูหราต่างกัน ส่วนระยะทางวิ่งน่าจะทำได้เกิน 400 กิโลเมตร ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง
ด้านดีไซน์ภายนอกจะมาพร้อมกับความพรีเมียม หน้าตัวรถยังคงเอกลักษณ์ของ Lexus ด้วยกระจังหน้าสีดำทรงกระสวยอวกาศ (Spindle Grille) แต่มาในแบบปิดทึบ ชุดไฟหน้า LED พร้อม DRL ดีไซน์โฉบเฉี่ยว เส้นสายข้างตัวรถออกแบบให้มีเหลี่ยมคมดูสปอร์ต ตกแต่งขอบซุ้มล้อด้วยแถบสีดำตามสไตล์รถครอสโอเวอร์สายลุย ายรถดีไซน์ให้ดูใหญ่บีกบึน ล้อจะมีขนาด 18 กับ 20 นิ้ว ขึ้นอยู่แต่ละรุ่นย่อย
ภายในห้องโดยสารมาพร้อมกับแผงหน้าปัด Full LED ขนาดกะทัดรัด หน้าจออินโฟรเทนเมนต์แบบสัมผัสขนาดใหญ่ 14 นิ้ว จอแสดงผลบนกระจก Head Up Display ช่องปรับอากาศออกแบบให้วางอยู่เหนือหน้าจอ พวงมาลัยแบบ One-Motion Grip เหมือนบนตัวรถแข่งในสนาม
ขุมพลังขับเคลื่อนจะติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ไว้ที่เพลาคู่หน้าให้กำลัง 309 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 435 นิวตันเมตร เป็นแบบขับเคลื่อน 4 ล้อ DIRECT4 ที่พัฒนาขึ้นใหม่ควบคุมการส่งกำลังไปยังล้อทั้ง 4 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ใน 5.6 วินาที มาพร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 71.4 kWh ชาร์จไฟเต็ม 1 ครั้งวิ่งได้ระยะทางราว 450 กม. ตามมาตราฐาน WLTC และกินไฟต่ำกว่า 18 kW / 100 กม. นอกจากนี้ทาง Lexus ยังเคลมว่าแบตเตอรี่ของ RZ 450e จะสูญเสียประสิทธิภาพเพียงประมาณ 10% หลังจากใช้งานไปแล้ว 10 ปี หรือ 240,000 กม. เท่านั้น

✴️✴️ Lexus RZ 450e
รุ่น Luxury ราคา 3,870,000 บาท
รุ่น Premium 4,190,000 บาท

🚩 BMW i4 eDrive 35 M Sport ราคา 3,899,000 เคลมระยะวิ่ง 483 กม.
BMW i4 eDrive35 M Sport ทางเลือกใหม่สำหรับคนที่กำลังมองรถในสไตล์พรีเมี่ยมซีดาน ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า 100% โดย BMW i4 eDrive 35 M Sport ถือว่าเป็นรุ่นที่มาแทนที่รุ่นพี่ในรหัส eDrive 40 ที่เปิดตัวไปก่อนหน้า ซึ่งหากว่ากันตามระดับราคา รวมถึงรายละเอียดต่างๆ ที่ให้มาแล้ว ดูจะใกล้เคียงกับรุ่นใหญ่ BMW i4 M50 มากเกินไป อาจแย่งส่วนแบ่งทางการตลาดกันเอง ทางค่ายจึงต้องวางรุ่นย่อยใหม่ ให้แตกต่างและรองรับกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ได้มากขึ้น
BMW i4 eDrive 35 M Sport มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อนที่ล้อคู่หลัง ให้กำลัง 286 แรงม้า พร้อมแรงบิด 400 นิวตัน-เมตร (รุ่น eDrive 40 กำลัง 340 แรงม้า 430 นิวตัน-เมตร) ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 6 วินาที ทำความเร็วสูงสุดได้ 190 กม./ชม. แบตเตอรี่มีความจุ 70.2 kWh (ลดจากรุ่น eDrive 40 ที่มาพร้อมแบตขนาด 83.9 kWh) ระยะการเดินทางต่อชาร์จ 483 กม. ตามมาตรฐาน WLTP (eDrive 40 อยู่ที่ 590 กม.) และราคาถูกลง 600,000 บาท
พร้อมติดตั้งอุปกรณ์มาตรฐานภายนอก ระบบไฟหน้า LED พร้อมไฟสูงอัตโนมัติ High-beam Assistant ชุดตกแต่งภายนอก M Aerodynamics ระบบเบรก M Sport, สปอยเลอร์ท้าย M ระบบช่วงล่าง Adaptive M พวงมาลัย Variable sport steering และล้ออัลลอย M aerodynamic สี Bicolour ขนาด 18 นิ้ว ภายในห้องโดยสารติดตั้งเบาะนั่งตอนหน้าดีไซน์ M Sport

✴️✴️ BMW i4 eDrive35 M Sport ราคาจำหน่าย อยู่ที่ 3,899,000 บาท

Peugeot e-2008 ราคา 2.49 ล้านบาท เคลมระยะวิ่ง 245 กม.
Peugeot e-2008 อันเป็นเวอร์ชั่นขุมพลังไฟฟ้า 100% ของรถ Crossover SUV ขนาดเล็กแบบ 5 ที่นั่ง ที่เปิดตัว และวางจำหน่ายในไทยมาก่อนหน้าแล้ว เน้นรายละเอียดการดีไซน์ ตามสไตล์ยนตรกรรมจากฝรั่งเศส โดยได้การันตีความเฉียบคมด้วยรางวัล Red Dot Design Awards ปี 2020 มิติตัวรถของ Peugeot e-2008 จะมีตัวถังความยาว 4,300 มม. ความกว้างอยู่ที่ 1,770 มม. และมีความสูงของตัวรถอยู่ที่ 1,550 มม. ส่วนระยะฐานล้อ 2,605 มม.
ขุมพลังขับเคลื่อนของ Peugeot e-2008 ถูกพัฒนาขึ้นบนพื้นฐานเดียวกับ Peugeot 2008 ในรุ่นเครื่องยนต์สันดาป แต่ปรับเปลี่ยนยกเครื่องยนต์ออก แล้วติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 50 kWh เข้าไปแทน โดยให้กำลังถึง 136 แรงม้า มาพร้อมแรงบิดสูงสุด 260 นิวตันเมตร สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลา 8.5 วินาที ทำความเร็วสูงสุดได้ 150 กม./ชม.
พร้อมแบตเตอรี่ขนาด 50kWh ชาร์จไฟเต็มไว้ ได้ระยะทางราว 340 กม. ตามมาตรฐาน WLTP รองรับการชาร์ตไฟแบบกระแสสลับ AC ขนาด 7.4 kW ใช้เวลาชาร์จไฟเต็มในเวลา 8 ชม. พร้อมรองรับการชาร์จแบบ DC ขนาด 110 kW ให้กำลังไฟจาก 15-80% ภายในเวลาเพียง 30 นาที

✴️✴️ Peugeot e-2008 ราคาจำหน่ายอยู่ที่ 2.49 ล้านบาท

นอกจากนี้ ยังมีรถยนต์ไฟฟ้า อีกหลายตัว จากหลายค่าย ที่น่าสนใจ อาทิ Pocco ราคา 389,000 - 449,000 บาท เคลมระยะวิ่ง 116-170 กม. Volvo xc40 ราคา 2.69 ล้านบาท เคลมระยะวิ่ง 500 กม.Volvo c40 ราคา 2.790 ล้านบาท เคลมระยะวิ่ง 520 กม. Mercedes EQB ราคา 3.02 ล้านบาท เคลมวิ่ง 460 กม. Lexus UX300e ราคา 3.49 ล้านบาท เคลมระยะวิ่ง 300 กม.
รวมถึงรถยนต์ไฟฟ้าระดับหรู อย่าง BMW iX ราคา 5.999 - 6.299 ล้านบาท เคลมเคลมระยะวิ่ง 425 กม. Porsche Taycan ราคา 6.45 - 12 ล้านบาท เคลมระยะวิ่ง 371-505 กม. Audi e-tron GT ราคา 6.849 - 10.19 ล้านบาท เคลมระยะวิ่ง 540 กม.Mercedes EQS ราคา 7.2 ล้านบาท เคลมระยะทางสูงสุดถึง 696 กม.

และที่พลาดไม่ได้ ก็รถยนต์ไฟฟ้า ที่เปิดตัวใหม่ หรือรถต้นแบบ ที่นำมาโชว์ หรือให้สั่งจองไว้ก่อน เพื่อดูลู่ทางการตลาดว่าจะนำมาจำหน่ายหรือไม่ อาทิ Mazda นำรถ EV รุ่นแรกของค่าย Mazda MX-30 เข้ามาจัดแสดงในงาน Motor Show 2023 MG นำมาจัดแสดงแบบเซฮร์ไพรส์ คือ Maxus 9 อันเป็นรถ MPV ขนาดใหญ่ ดึงดูดคนที่มางานเข้ามาดูรถรุ่นนี้อย่างล้นหลาม
แม้กระทั่ง Neta จัดโชว์รถใหม่ เป็นรถ Mini Commercial EV รถขนของขุมพลังไฟฟ้าขนาดเล็ก 1 ก็ได้รับความสนใจไม่น้อย ไฮไลท์โดดเด่นของบูธ GWM คงหนีไม่พ้น GWM Tank 500 รถ SUV คันยักษ์ขุมพลัง Hybrid ซึ่งกำลังจะถูกเปิดตัวอย่างเป็นทางการในไม่ช้า Hyundai ก็นำ IONIQ 5 และ IONIQ 6 ซึ่งเป็นรถ Battery EV 100% ของค่ายมาจัดแสดง เป็นเหมือนสัญญาณบอกว่า Hyundai Mobility ซึ่งบริษัทแม่จากเกาหลีใต้ กำลังจะมาตีตลาดรถยนต์ไฟฟ้า ในไทยค่อนข้างแน่นอน !
ตบท้าย ค่ายรถ EV แบรนด์ชั้นนำอย่าง BYD ไฮไลท์ภายในงาน Motor Show 2023 คงหนีไม่พ้น BYD Denza D9 รถตู้ EV ในรูปแบบ 7 ที่นั่ง ที่ยังไม่มีแผนทำตลาดในเมืองไทย เอามาโชว์ให้คนไทยที่สนใจ ได้ยลโฉมไปพลางๆ ก่อน