🔴 มิติตัวรถทาง Toyota ได้มีการขยายฐานล้อของรถคันนี้ให้กว้างขึ้น 140 มิลลิเมตรที่ล้อคู่หน้า และ 155 มิลลิเมตร ที่ล้อคู่หลัง เสริมด้วยปีกนกที่ถูกออกแบบใหม่ และเฟืองท้ายที่เพิ่มความแข็งแรงมากกว่าปกติ ส่วนด้านท้ายรถยังคงในรูปแบบเดิมเพื่อเติมในส่วน หูลากด้านหลังตกแต่งด้วยเฉดสีแดง พร้อมชื่อรุ่น Hilux ที่เป็นตัวอักษรสีดำ อีกทั้งยังได้รับการปูพื้นกระบะออกมาจากโรงงาน พร้อมตีตรา GR ประทับไว้ด้านใน นอกจากนี้ โตโยต้า ไฮลักซ์ GR SPORT เวอร์ชันออสเตรเลีย ยังมีการติดตั้ง โช้คอัพโมโนทิวบ์ ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการซับแรงสะเทือนและมีประสิทธิภาพการกระจายความร้อนได้ดีกว่า ทำงานคู่กับคอยล์สปริงที่มีความแข็งแรงมากกว่ารุ่นปกติ ส่งผลให้ตัวรถมีการทรงตัวที่ยอดเยี่ยม ช่วยลดอาการโคลงอย่างเห็นผล และเพิ่มประสิทธิภาพการตอบสนองของพวงมาลัยได้อย่างแม่นยำ ซึ่งโตโยต้าระบุว่าช่วงล่างชุดนี้สามารถตอบสนองได้ทั้งการขับขี่แบบสปอร์ตและการใช้งานในชีวิตประจำวัน
🔴 Toyota Hilux GR Sport 2023 มีเฉพาะในรุ่นตัวถังแบบดับเบิ้ลแค็บ หรือแบบ 4 ประตู Double Cab เท่านั้น โดดเด่นด้วยชุดแต่งแบบคัสตอม ตกแต่งด้วยกระจังหน้าทรงตะแกรงดีไซน์เอกลักษณ์ของ GR ประดับด้วยตัวหนังสือ TOYOTA ขนาดใหญ่ เสริมความดุเพิ่มเติมด้วยกันชนหน้าสีเงิน และแผ่นกันกระแทกอะลูมิเนียมใต้ห้องเครื่อง ด้านข้าวตัวรถติดตั้งบันไดข้างทรงกลมสีดำ พร้อมโป่งซุ้มล้อสีดำซาตินแบบใหม่ ซึ่งเสริมความกว้างของตัวรถให้ดูมีมัดกล้ามที่น่ายำเกรงมากยิ่งขึ้น และจุดยึดสีแดงบริเวณท้ายรถ รับกับชุดล้ออัลลอยสีดำลายใหม่ขนาด 17 นิ้ว รัดด้วยยาง All-Terrain ขนาด 265/65R17 จาก Bridgestone มาพร้อมกับจานเบรกที่ขยายขนาดให้ใหญ่ขึ้น เสริมความปลอดภัยด้วยคาลิปเปอร์เบรกสีแดงจากทาง GR ขณะที่ชิ้นส่วนตัวถังถูกออกแบบเป็นพิเศษอุโมงค์ลมเพื่อประสิทธิภาพสูงสุดด้านอากาศพลศาสตร์
🔴 ภายในห้องโดยสาร คล้ายกับรถเวอร์ชัน REVO ในบ้านเรา ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งด้วยชุดแต่ง GR Sport เบาะหุ้มด้วยหนังสีดำพร้อมปักโลโก้ Gazoo Racing ที่บนพวงมาลัยและพนักพิงศีรษะ พร้อมโทนสีแดง พร้อมแป้นเหยียบแบบอะลูมิเนียมและสายคาดเข็มขัดนิรภัยสีแดง คาลิเปอร์เบรกสีแดง รวมถึงบริเวณพื้นปูกระบะท้ายด้วย Toyota Hilux GR Sport เวอร์ชั่นออสเตรเลีย ยังไม่ได้มีการประกาศราคารถรุ่นนี้ออกมา เพียงแต่มีกำหนดเตรียมทำตลาดในช่วงครึ่งหลังของปี 2023 ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่า ถ้าจะมีการเปิดตัวในไทยคงจะเวลาไล่เลี่ยกัน คงต้องจับตาดูให้ดี อาจจะมีสิทธิเปิดโชว์ในงานใหญ่ๆ ช่วงกลางปีนี้ก่อนก็ได้