การปรับเปลี่ยนครั้งนี้สำหรับ Nissan Kicks (MY2022) ทำให้ได้รับการตอบรับที่ดีอยู่พอสมควร ทางนิสสันแจ้งว่ามียอดจองเข้ามามากขึ้น และเชื่อว่ามีแนวโน้มที่จะดีขึ้นไปเรื่อยๆ
คันนี้มีอะไรพิเศษและทำไมคนถึงหันมาสนใจกันขนาดนี้ เรามาดูกัน !
Price - ราคา
- รุ่น E 759,000 บาท
- รุ่น V 829,000 บาท
- รุ่น VL 899,000 บาท
- รุ่น AUTECH 949,000 บาท
Nissan Kicks เป็นรถที่อยู่ในกลุ่ม B-SUV ซึ่งจะประกอบด้วย Honda-HRV e:HEV, Toyota Corolla Cross, Mazda CX-30, Haval Jolion, MG VS HEV
เมื่อคุณนำราคามาเปรียบเทียบแล้ว Kicks MY2022 ถือว่ามีราคาที่ดีกว่าหลายรุ่น เพราะส่วนใหญ่แล้วในกลุ่มนี้ราคาจะอยู่ที่ 1 ล้าน ถึง 1.2 ล้าน แต่ตัวท็อปของนิสสัน Kicks คันนี้ราคายังไม่ถึงหนึ่งล้านเลย
แน่นอนว่าไม่ใช่แค่ราคาแต่เรื่องเทคโนโลยี e-Power ก็สำคัญ ระบบ e-Power เป็นระบบที่นำเครื่องยนต์ 1.2 ลิตร ซึ่งมีหน้าที่ปั่นไฟไปให้กับแบตเตอรี่เพื่อจะได้เอาพลังนั้นส่งตรงไปที่มอเตอร์เพื่อขับเคลื่อนตัวรถและระบบต่างๆ
ง่ายๆคือคันนี้ใช้มอเตอร์ขับล้วนๆ 100% จะได้อารมณ์การขับขี่แบบรถไฟฟ้าแต่ไม่ต้องชาร์จ จะใช้เติมน้ำมันปกติทั่วไปนั่นเอง
ขุมพลัง e-POWER
เครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ รหัส HR12DE ขนาด 1.2 ลิตร 1,198 ซีซี. ให้กำลังสูงสุด 79 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 103 นิวตันเมตร ที่ 4,800 รอบ/นาที ทำหน้าที่ปั่นไฟไปเก็บที่แบตเตอรี่ Lithium-ion 2.06 kWh 4 Module 96 Cells
ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า EM47 AC3 Synchronous Motor และเกียร์อัตโนมัติ Single Speed Gear reductionให้กำลังสูงสุด 136 แรงม้า ที่ 3,410 – 9,697 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 280 นิวตันเมตร ที่ 0 – 3,410 รอบ/นาที
ข้อดีของการขับ Nissan Kicks คือคุณจะไม่ต้องรอรอบเมื่อเหยียบคันเร่ง จะเห็นผลได้ชัดเจนในความเร็วต่ำ (ประมาณ 0-40 km/hr) เมื่อเปรียบเทียบแล้วจะทำความเร็วได้ดีกว่าคู่แข่งหมดเลยเพราะคันอื่นๆจะต้องรอรอบ
ถ้าดูจากตัวเลขการทดสอบ 0-100 Nissan Kicks จะทำตัวเลขได้ประมาณ 8 วินาที หากไปเปรียบเทียบแล้วถือว่าเร็วมากๆ
ส่วนความเร็วสูงของคันนี้ที่ได้ทดลองขับ (ประมาณ 120 km/hr ขึ้นไป) จัดว่ายังเร็วอยู่ แต่ส่วนตัวยังไม่ค่อยรู้สึกว่าแรงเท่าไหร่
ปัจจัยหลักๆคือเนื่องจากเป็นรถที่ขับและได้ฟิลลิ่งรถไฟฟ้าจะไม่มีเครื่องยนต์ทำงาน การที่เครื่องยนต์ไม่ทำงาน มันจะเสียความรู้สึกถึงความดุดัน ความลุยแบบ aggressive ที่เรามักจะได้ยินกับรถที่ใช้เครื่องยนต์สันดาป และเวลารถที่มีมอเตอร์มาช่วยในการขับขี่ ส่วนใหญ่แล้วจะไม่สามารถทำความเร็วสูงได้มากเท่าไหร่นักเห็นได้จากบางคันที่ต้องล็อค Top Speed ไว้เพื่อไม่ให้ทำความร้อนมากเกินไปซึ่งอาจจะทำให้รถเสียหายได้
สมรรถนะการขับขี่อื่นๆของคันนี้ถือว่าใช้ได้เลยครับ การเข้าโค้งมั่นใจได้ (ประมาณ 80 km/hr) ทัศนวิสัยในการขับขี่กว้างขวางพอสมควร
กระจกมองหลังที่เป็นแบบสี่เหลี่ยมตรงขอบส่วนตัวจะไม่ค่อยชินนักเมื่อเทียบกับที่เป็นขอบกลมๆ เบาะแถวหน้านั่งสบายๆ ตรงนี้มั่นใจได้ แต่เบาะหลังถ้านั่งนานๆอาจจะมีเมื่อยได้ครับ และขอบอกว่าแอร์เย็นมาก
ส่วนตัวที่ชอบมากๆคือไฟ ambient light ที่สามารถปรับได้หลายสีเลย พอเปิดประตูมาจะเห็นคำว่า KICKS ส่องอยู่ตรงพื้น คือดูดีมาก จุดนี้อาจจะทดแทนฟิลลิ่ง Sport/Aggressive ที่หายไปเวลาขับในช่วงความเร็วสูงก็พอได้บ้างนะครับ
การขับในเมืองแบบรถติดๆ กับบนทางด่วนหรือบนถนนโล่งๆ จะมีผลแตกต่างที่เห็นได้ชัดอยู่ครับสำหรับ Kicksคันนี้
หากเราขับในเมืองหรือถนนที่รถติดตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองจะไม่ดีเหมือนขับบนถนนโล่งๆ แต่ก็อยู่ที่ condition ต่างๆ ที่เรา set ไว้ครับ ตอนรถติดผมใช้เวลาขับสามชั่วโมง ขับคนเดียวนะครับ ขับด้วยโหมด Normal อัตราสิ้นเปลืองจะอยู่ที่ 16 กิโลเมตร/ลิตร ถ้าอยากทำให้ตัวเลขดีกว่านี้ก็อยู่ตาม condition ครับ เช่นขับโหมด Eco เพราะถ้าเราปรับเป็นโหมด Eco หรือ Sport จะมีระบบ Single Peddle ทำงาน ซึ่งโหมด Normal จะไม่มี
เนื่องจากผมไม่ค่อยชอบระบบ Single Peddle เท่าไหร่ โดยเฉพาะตอนรถติดนานๆเพราะมันจะดึงเราและจะทำให้เราเหนื่อยมากขึ้น (จุดนี้อยากให้ทุกท่านไปลองกันเองก่อนนะครับ) ผมก็เลยตัดสินใช้โหมด Normal เพราะเราสามารถความคุมจังหวะได้เอง
ถ้าในอนาคตสามารถเลือกเปิด-ปิด ระบบ Single Peddle ได้โดยที่ไม่ต้องเซ็ท condition ต่างๆ น่าจะอำนวยความสะดวกได้มากกว่านี้
การขับนอกเมืองหรือบนถนนโล่งๆ คันนี้ตอบโจทย์เลยครับ ขับได้รื่อยๆแบบไม่เมื่อย ไม่ต้องรอรอบ ถ้าเราไม่ได้เร่งอะไรหนักเกินไป คันนี้ไม่มีปัญหาเลยครับ ขับในกรุงเทพฯก็ได้ ไปต่างจังหวัดก็ดี
ขับนอกเมืองก็จะมี condition เช่นเดียวกัน นั่นก็คือ Single Peddle ในโหมด Sport เราจะไม่สามารถเร่งได้เต็มที่นักเพราะเวลาเราปล่อยคันเร่งมันจะดึงเราและทำให้เสียจังหวะได้
ส่วนตัวผมแนะนำให้ใช้โหมด Normal ครับ เพราะแม้จะไม่มีระบบ Single Peddle และโหมด Normal ก็ถือว่าเร็วอยู่ครับ ส่วนอัตราสิ้นเปลืองจะได้ประมาณ 18 กิโลเมตร/ลิตร เลยทีเดียว (ถ้าหากขับเน้นจริงๆจะได้มากกว่านี้อีกครับ)
ด้านอัตราสิ้นเปลืองจะมีหลายปัจจัย ขึ้นอยู่กับว่าสภาพถนนเป็นอย่างไร จำนวนคนที่นั่ง น้ำหนักบรรทุกและความเร็วที่ใช้ขับกันอยู่ที่เท่าไหร่ ?
Nissan Kicks นี้ผมเอามาขับแล้วใช้ชีวิตแบบประจำวันทั่วๆไป คือขับคนเดียว ถ้ารถติดก็ไม่ได้เร่งอะไรมากมาย ไหลไปเรื่อยๆ ถ้ารถโล่งก็จะขับประมาณ 100-120 km/hr
ซึ่งตัวเลขอัตราการสิ้นเปลืองที่ได้จะอยู่ที่ 17-18 กิโลเมตร/ลิตร ส่วนตัวแล้วถือว่าเป็นตัวเลขที่ดีเลยทีเดียวครับ !
